บิ๊กโจ๊ก-พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร (26 ก.ย.) ว่าที่ผ่านมาตนต้องใช้เงินทำคดีต่างๆ ถึง 1 ล้านบาท แต่สามารถตรวจสอบที่มาทางการเงินของตนได้
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า เงินเหล่านี้เป็นเงินที่ได้มาโดยสุจริต ไม่ได้มาจากเครือข่ายเว็บพนัน และยังเตรียมรับเงินมรดกของพ่อภรรยามูลค่าหลักพันล้านบาทอีกด้วย จึงยืนยันว่าตนมีเงินในการทำคดีต่างๆ แน่นอน
“ผมไม่ได้เงินจากเว็บพนันนะ เงินของผม คือ เอางี้นะครับ ผมมีเงินให้การลับที่ ผบ. มอบนะ แต่เราต้องเข้าใจว่ามีไม่พอนะครับ แล้วสื่อก็เห็นว่าผมทำงานขนาดนี้นะ ทำงานทั้งประเทศเนี่ยนะครับ นะ มันก็ต้องใช้เงินนอกเหนือจากนั้น ก็คือเงินส่วนตัวนะครับ มันไม่มีใครเอาเงินส่วนตัวมาทำงานหรอกนะ แล้วผมถามคำเดียวว่า ผมไม่เอาเงินส่วนตัวมาเนี่ย แล้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาเงินที่ไหนมาให้ผมทำงานนะครับ” บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
“แต่เพียงแต่ว่าอาจจะไม่มีใครมีความพร้อมแบบผมนะครับ หรือมีความบ้าแบบผมที่เอาเงินส่วนตัวมาทำงานนะครับ ก็เพราะผมไม่ได้มีลูกเท่านั้นเองนะ ผมก็เอาเงินส่วนเนี้ยมาใช้ทำงาน คนอื่นเขามีลูกมีเต้าเขาก็ต้องส่งลูกไปเรียนอังกฤษ เรียนเมืองนอก แต่ผม หรือไปเรียนต่างประเทศ หรือเรียนดีๆ แต่ผมไม่มีนะครับ ผมก็เอาตรงเนี้ยมาทำงานนะครับ”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่าที่มาของเงินดังกล่าวที่ใช้ทำงานนั้นก็ตอบได้หมดว่ามาจากไหน เพราะเพียงได้รับมรดกจากพ่อของภรรยาก็มีเกือบพันล้านบาทแล้ว
“คือ ที่มาของเงินเนี่ยนะ ผมตอบได้หมดแหละนะครับ เพราะอะไรครับ เพราะเฉพาะพ่อตาผมเสียเนี่ย มรดกที่กำลังจะรับมอบอยู่นี้นะครับ ที่แม่ยายผมเป็นผู้จัดการมรดกก็เกือบพันล้านแล้วนะครับ นะ เพราะฉะนั้นมันไม่มี”
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พูดถึงกรณีที่ตำรวจในทีมของตนที่ถูกจับกุมจากการพัวพันคดีเครือข่ายเว็บพนันว่า เป็นเรื่องเฉพาะตัว ที่แต่ละคนจะต้องตอบคำถามให้ได้ว่าที่มาการเงินของตัวเองมาจากแหล่งใดบ้าง