7 ม.ค.2567-สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ระบุ สืบเนื่องจากกรณีที่กระทรวงการคลัง ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยในข้อกฎหมาย กรณีที่รัฐบาลจะมีการกู้เงินเพื่อดำเนินนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โดยการออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินฯกรอบวงเงิน 5 แสนล้านบาท ว่าทำได้หรือไม่ นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานฯ ได้ส่งคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีที่รัฐบาลจะขอออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเลต ให้กระทรวงการคลังแล้ว โดยคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าว ไม่ได้ฟังธงว่าการกู้เงินทำได้หรือไม่ เพียงแต่เป็นการอธิบายในข้อกฎหมายเท่านั้น
“ได้ส่งเรื่องกลับไปให้กระทรวงการคลังแล้ว ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ โดยตีตราลับ ซึ่งคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าว ไม่ฟันธงว่าการกู้เงินทำได้หรือไม่ได้ เพียงแต่อธิบายข้อกฎหมายต่างๆเท่านั้น แล้วส่งเรื่องกลับมไป”แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและความเหมาะสมของโครงการพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรขุดลอกสระน้ำสาธารณะบ้านใหม่ตาแสง หมู่ที่ 4 ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขความยากลำบาก ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และนอกจากการดูแลเศรษฐกิจแล้ว รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
“เราได้สัญญากับประชาชนไว้ว่าจะทำดิจิทัลวอลเลต ให้ท่านมีส่วนร่วมช่วยประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีกลับคืนมา ให้มีงานทำเหมือนในอดีต” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม ย้ำด้วยว่า “เงิน 10,000 บาท ยืนยันว่าจ่ายแน่นอน รอกฤษฎีกาให้ความเห็น ถ้าให้ความเห็นเรียบร้อย จะดำเนินการทันที ให้พวกท่านทั้งหมด ลูกหลานที่อยู่ที่อื่น ก็กลับมาใช้จ่ายที่บ้าน น่าจะแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ อาจนำไปใช้เป็นเงินลงทุนสร้างอาชีพใหม่ๆได้ด้วย”