ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
…..รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 211 วรรคหก บัญญัติว่า
…..คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลพูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระและหน่วยงานของรัฐ
…..คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้ในหมวดที่ 12 ส่วนที่ 2
…..การที่ศาลรัฐธรรมนูญโดยมีมติเป็นเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า การกระทำผู้ร้องทั้งสองคือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้องที่ 2) เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
…..คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว คณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งเป็นองค์กรอิสระ จึงต้องผูกพันและต้องปฏิบัติตามคำวินิจของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 211 วรรคหก
…..พรป.พรรคการเมือง มาตรา 92 บัญญัติว่า เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบการเมืองนั้น
…..(1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฯลฯ
…..(2) กระทำการอันเป็นการปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฯลฯ
…..พรป.พรรคการเมือง มาตรา 93 บัญญัติว่า เมื่อปรากฎต่อนายทะเบียนว่าพรรคการเมืองใดกระทำการตามมาตรา 92 ให้นายทะเบียนรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ฯลฯ
…..กรณีของนายพิธาและพรรคก้าวไกลผู้ถูกร้องทั้งสอง ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้ชัดเจนแล้วว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
…..ดังนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงไม่ต้องดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอื่น ๆ อีกต่อไป คณะกรรมการการเลือกตัังและนายทะเบียนพรรคการเมือง มีหน้าที่ต้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกลเพียงประการเดียวเท่านั้น
…..ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคการเมืองชุดนี้ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเคร่งครัดอย่างไรหรือไม่ ประชาชนทั่วไปต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้ว
…..สำหรับครั้งนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคการเมืองคงไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอย่างอื่น นอกจากต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญคือยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกลเท่านั้น
.
…..มิฉะนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคการเมือง อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มตรา 157 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ