น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (10 ต.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก สำนักข่าวราษฎร – Ratsadon News โพสต์ข้อความระบุว่า
“ประจักษ์” ชี้ ถ้า “เพื่อไทย” เสนอนโยบายที่ก้าวหน้า เช่น ยกเลิก 112 หรือลงนาม ICC จะเป็นไพ่ใบสำคัญ ที่สามารถต่อรองกับชนชั้นนำ อย่างน้อยคะแนนเสียงก็เท่าเดิม หรือมากขึ้นด้วยซ้ำ
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 ที่ กินใจ คอนเทมโพรารี (Kinjai Contemporary) ในงานเสวนา “ความยุติธรรมในยุคเปลี่ยนผ่าน” โดยมี ประจักษ์ ก้องกีรติ ภัควดี วีระภาสพงษ์ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และดำเนินรายการโดย เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว
ในช่วงท้าย ประจักษ์ ได้ตอบคำถามกับผู้ร่วมฟังเสวนา และแสดงความคิดเห็นในเรื่องพรรคการเมือง ว่า โดยธรรมดาของฝั่งประชาธิปไตยมักจะมีฝ่ายค้านมากกว่าหนึ่งแพคเสมอ และพอมีมากกว่าหนึ่งพรรค ซึ่งคุณก็ต้องทำงานร่วมกันแต่อาจจะไม่ต้องเห็นตรงกันทั้งหมดทุกเรื่อง
“อย่าทะเลาะกันจนเหมือนเป็นศัตรูกัน บางทีตนอ่านแล้วยังงงว่าเหมือนสองพรรคนี้เกลียดกันเองมากกว่าเกลียดพลังประชารัฐหรือภูมิใจไทย ซึ่งตนก็สับสนเหมือนกัน” ประจักษ์ กล่าว
ประจักษ์ กล่าวต่อไปว่า ตนไม่เห็นว่า การที่พรรคเพื่อไทย ถ้าสมมติเสนอนโยบายเรื่อง ICC หรือ 112 จะทำให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงน้อยลงอย่างไร ก็คือ ได้เท่าเดิมหรือได้มากขึ้นด้วยซ้ำ จริงๆ แล้วนั่นแหละจะเป็นอำนาจที่ต่อรองสำคัญที่สุดกับชนชั้นนำ
“พรรคเพื่อไทย ถ้าเสนอเรื่องนี้ สุดท้ายคุณอาจจะไม่ได้ทำจริงก็ได้ หรือทำไม่สำเร็จ แต่ถ้าคุณผลักดัน Agenda เหล่านี้ อันนี้แหละจะเป็นไพ่ที่สำคัญในมือ ที่จะทำให้ชนชั้นนำ ยิ่งต้องมาต่อรอง คุณมีอำนาจต่อรอง ถ้าคุณผลักดัน Agenda ที่มันก้าวหน้า” ประจักษ์ กล่าว
ประจักษ์ กล่าวด้วยว่า คุณเสนอ 100 เขาจะต่อรองเหลือ 80 หรือ 50 แต่ถ้าคุณเริ่มต้นเสนอ 0 แล้ว มันก็ไม่มีอะไรที่ เขารู้สึกว่าจะมาดีลทำไม มันไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับเขา
“แต่ถ้าคุณเอายกเลิก 112 สุดท้ายเราอาจจะได้ปฏิรูป 112 ถ้าคณจะเอาประยุทธ์ ประวิตร อนุพงษ์ ประหารชีวิต เขาก็จะต่อรองเหลือจำคุก 10 ปี อย่างเกาหลีใต้ สุดท้ายเอาทหารไปติดคุก พอผ่านไปเห็นแล้วว่าทหารไม่มายุ่งการเมือง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ฝั่งประชาธิปไตย ก็อภัยโทษ” ประจักษ์ กล่าว
ประจักษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สุดท้ายผู้นำเกาหลีใต้ ที่เป็นเผด็จการก็ออกจากคุก แต่มันติดไปแล้วไง อย่าน้อยมันปักหมุดว่าไม่มีใครกล้ามาทำรัฐประหารแล้ว จะติดไปแค่ปีสองปี อย่างน้อยมันสำคัญแล้ว
#สำนักข่าวราษฎร #RatsadonNews #พรรคเพื่อไทย #เพื่อไทย #ประจักษ์ก้องกีรติ #ยกเลิก112 #ลงนามICC #พรุ่งนี้เพื่อไทย #ชนชั้นนำ
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์ข้อความระบุว่า
“รำคาญ พวก III ที่ออกมาทะเลาะกับ พรมแดง กันเป็นทิวแถว
พวก ที่เป็น อวตาร ก็ช่างมันเถอะ แต่สำหรับคนที่พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง
เหตุไฉน วิ่งเข้าไปติดกับดักนี้กันเป็นแถว
บางคน บ่นเรื่อง พิธีการ วิธีการ ความดักดาน อะไร แล้ว ระบุแคปชันเสริมว่า เพลินพรมแดง นี่ดูเหมือนจะเท่ เลยนะ แต่ ผมว่า มันดู บ้ง มากกว่า
ถ้าเป็นเรื่อง พรมแดงหน้าศูนย์เด็ก นั่น พระองค์ท่านไม่ได้เกี่ยวสักนิด
ท่านไม่ได้มีหมายกำหนดการเสด็จฯไปที่นั่นด้วยซ้ำ ท่านเพียงไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล แบบส่วนพระองค์ โดยแทบจะไม่มีพิธีการอะไรเลย โตๆ กันแล้ว โดนเฟซบุ๊กคนหัวหงอกใจระยำ ที่หนีไปต่างประเทศ ปั่นเข้าให้ ก็เชื่อกันง่ายๆ เลย หรือไร
ถ้าเป็นเรื่อง พิธีการงานศพ นั่นก็ดู ไม่เข้าใจเรื่องการให้เกียรติเลย
แต่ต่อให้พูดถึงเรื่องไหน มันก็ดูจะดัดจริตไปไหม ที่จะมาเกี่ยงงอนเรื่อง การมี “พิธีการ” แล้วมาแขวะ คนอื่นว่าดักดาน ถ้าจะดักดาน ก็ดักดานกันทั่วโลกนั่นแหละ เธอจ๋า เผลอๆ ก็ตัวเธอเองด้วย ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
๓๔๖/๒๕๖๕ พิธีการ วิธีการ และ ความดักดาน
ถ้าชัง พิธีการ เห็นบางงาน ไยตื่นเต้น
ดารา มาเดินเล่น อวดความเด่น ในสีแสง
ชื่นชม กันนักหนา ไม่ออกมา ด่าพรมแดง
พวกบ่าง ช่างยุแยง ช่างย้อนแย้ง แฝงระราน
โลกเรา ยังมากมี เซเรโมนี จะที่ไหน
เป็นไร กันมากไหม ให้เห็นใจ แกมสงสาร
ช่างกล้า ดีอย่างไร มาด่าใคร ว่าดักดาน
หรือใจ ไม่ต้องการ พิธีการ งานบุญใด
เมื่อใคร จัดงานบวช ร่วมงานสวด อวดงานแต่ง
ก็เห็น ทุกหนแห่ง พรมแดงมี สีสดใส
หรือเธอ ชอบแนวเถื่อน ไม่เหมือนเพื่อน ไม่เหมือนใคร
แค่หนี ตามกันไป เมียสิ้นใจ ก็เผาเอง
รู้ไหม ในบางงาน พิธีการ ไม่ได้เยอะ
ที่ด่า กันเลอะเทอะ แล้วสะเออะ มาข่มเหง
เพราะดัน เชื่ออัปรีย์ ที่เอาสี มาละเลง
เลยคิด มโนเอง แล้วบรรเลง เพลงโง่งม
ความคิด อันตื้นเขิน พาเธอเดิน เข้ากับดัก
นับวัน อาการหนัก แม้ไม่รัก อย่าหักถ่ม
ไม่รู้ วิธีการ ที่พาลปั้น ปั่นอารมณ์
จึงโดน คนพาลต้ม เพราะนิยม ความดักดาน
P.khondee
10 Oct 2022”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก อาจารย์จักษ์ พันธ์ชูเพชร ของ ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร โพสต์ข้อความระบุว่า
#ใครกันแน่?
“ไปก็ไป เป็นภาระ”
ใครกันวะ ภาระประเทศ
สัตว์นรก พวกตกเกรด
ฝูงปอบเปรต ทุเรศสุด
คือภาระ สวะเสื่อม
สะอิดเอือม เสื่อมมนุษย์
พวกกะลา ปัญญาหลุด
ที่โผล่ผุด ขุดจากขุม
เก่งสร้าง ความเกลียดชัง
พวกคุ้มคลั่ง กระหังหลุม
ห่ามฝืน หอบหื่นคลุม
ความเลวสุม ขุมนรก
เป็นเอง เสียมากกว่า
พวกไร้ค่า สกปรก
มืดดำ ต่ำวนวก
ศีลธรรมตก รกแผ่นดิน
จักษ์ พันธ์ชูเพชร
๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๕”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ ข้อเสนอของ ประจักษ์ ก้องกีรติ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นนักวิชาการฝ่าย “สามนิ้ว” ต้องการให้พรรคเพื่อไทย กล้าที่จะประกาศนโยบายแบบ “ก้าวหน้า” คือ “ยกเลิก ม.112” หรือ ลงนาม ICC (ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งอาจมีผลฟ้องร้องสถาบันฯได้) เพื่อจะเป็นไพ่ใบสำคัญต่อรองกับชนชั้นนำ โดยเชื่อมั่นว่า จะไม่เสียคะแนน ทั้งยังอาจได้คะแนนมากขึ้นด้วยซ้ำ (จากสาวกสามนิ้ว)
ความจริง ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ คนระดับศาสดา “สามนิ้ว” บางคนแนะนำให้ก้าวข้าม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ไปได้เลย เพราะแม้แต่พูดถึง “สถาบันฯ” ยังยาก และวาทกรรม “สู้ไป กราบไป” ก็ยังคงหลอกหลอนอยู่ไม่สร่างซา
ดังนั้น “ประชาธิปไตย” ของ “ทักษิณ-เพื่อไทย” จึงไม่ใช่ “ประชาธิปไตย” ในแบบ “สามนิ้ว” หรือ “สามกีบ” แน่นอน
ยิ่งกว่านั้น “ทักษิณ” และเพื่อไทย ยังฉลาดพอที่จะไม่เดินตามเกม “สามนิ้ว” เพราะอย่าลืมว่า “คนไทยส่วนใหญ่” ของประเทศ รวมทั้ง “กลุ่มคนรากหญ้า” ที่เป็นฐานเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ยังคงจงรักภักดีต่อสถาบันฯอย่างสูง
การประกาศนโยบาย อย่างที่ “ประจักษ์” ชี้แนะ “พรรคเพื่อไทย” แม้แต่ “พรรคก้าวไกล” ที่เป็นพรรคสนับสนุน “สามนิ้ว” อย่างเต็มตัว ก็ยังไม่กล้า ที่จะใช้เป็นนโยบายหาเสียงอย่างชัดแจ้งประเด็นเดียวไปเลย หรือไม่จริง!?