การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เตือนประชาชนรับมือต้นทุนค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ใน 6 เดือนข้างหน้า พร้อมขอให้ร่วมกันประหยัดพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับขึ้นเกือบ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล
วันนี้ (22 พ.ค.61) นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียน และพลังงานใหม่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นจะกระทบราคาก๊าซธรรมชาติให้สูงขึ้นด้วย
และจะสะท้อนราคาต้นทุนค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ที่จะปรับเพิ่มขึ้นตามใน 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากต้นทุนค่าไฟฟ้าเป็นไปตามสูตรการคำนวนราคาก๊าซธรรมชาติ จากน้ำมันเตาร้อยละ 30 ซึ่งปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าจะพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ ร้อยละ 60 หากราคาน้ำมันปรับขึ้นเฉลี่ย 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล จากปัจจุบัน 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล
ก็จะมีผลต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าด้วย แต่ค่าไฟฟ้าจะปรับหรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดังนั้น กฟผ.จึงเตือนให้ประชาชนประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
ขณะที่นายสุเมธ สุทธภักดี รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มองว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้นจะเพิ่มบทบาทของพลังงานทดแทนทุกชนิด ส่งผลดีต่อต้นทุนของผู้ประกอบการพลังงานทดแทนให้สามารถแข่งขันได้ง่ายขึ้น
สำนักข่าววิหคนิวส์