นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้รายงานให้ นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง เพื่อเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้การเก็บภาษีปีงบประมาณ 2563 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค. 2562 ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในเอกสารงบประมาณที่ 6.42 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตคาดว่าการเก็บภาษีจะได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจปี 2563 จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 3% ทำให้การเก็บภาษีขยายตัวเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจจำนวน 1.81 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตได้เสนอ รมว.การคลัง ปรับเปลี่ยนวิธีการชำระภาษีน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลให้รายได้เพิ่มมากขึ้น จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน การเก็บภาษีความหวานจากเครื่องดื่มๆ ต่าง จะมีผล 1 ต.ค. 2562 หลังจากให้เวลาการปรับตัวมาเป็นเวลา 2 ปี จะทำให้การเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น 1.9 พันล้านบาท และการเก็บภาษีสรรพสมิตเครื่องดื่มที่มีนวัตกรรม (Functional Drink) ได้ภาษีเพิ่มอีก 100 ล้านบาท
“กรมสรรพสามิตเก็บภาษีรถจักร์ยานยนต์จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จะทำให้การเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 500 ล้านบาท รวมถึงมาตรการเสริมอื่น ๆ ทั้งการป้องกันและปราบปรามการหลักเลี่ยงภาษีสรรพสามิตของสินค้าต่างๆ จะทำให้เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นอีก 4.95 พันล้านบาท” นายพชร กล่าว
นายพชร กล่าวอีกว่า สำหรับปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพสามิตมีเป้าหมายการจัดเก็บภาษีตามเอกสารงบประมาณ อยู่ที่ 6.05 แสนล้านบาท แต่คาดว่าจะเก็บได้จริง ที่ 5.84 แสนล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจโตต่ำกว่าคาดทำให้การเก็บภาษีต่ำหายไป 1.02 หมื่นล้านบาท การส่งเสริมน้ำมัน B7 และ B20 ทำให้ภาษีหายไป 4.32 พันล้านบาท การส่งเสริมรถยนต์กระบะลดฝุ่น PM 2.5 ทำให้ภาษีหายไป 1 พันล้านบาท และสาเหตุอื่น ๆ เช่น การปิดปรับปรุงหอกลั่นน้ำมันทำให้ภาษีหายไป 2.08 พันล้านบาท
Cr.thaipost
สำนักข่าววิหคนิวส์