6 ก.ย.2565 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสเรียกร้องให้ปรับครม. ว่า ตนเห็นว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คงไม่ได้ปรับครม. ด้วยเหตุผลเพราะเป็นรักษาการ ซึ่งท่านคงไม่คิดจะปรับ และตนเห็นว่ารัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีจุดแข็งตรงที่ปรับครม.ยาก เพราะการปรับครม.ไม่บ่อยครั้งจะทำไม่ให้เกิดความร้าวฉาน เพราะการปรับครม.มีคนออก มีคนเข้า และมีคนที่อยากเป็นแล้วไม่ได้เป็น ก็เกิดความแตกแยก
อีกประเด็นคืออายุรัฐบาลเหลือประมาณ 6 เดือน ซึ่งไม่ได้มีงานอะไรมากมาย โดยเฉพาะงานของสภาที่เหลืออีก 1 สัปดาห์ก็จะปิดสมัยประชุม ฉะนั้นงานที่ให้รัฐมนตรีไปตอบคำถามในสภาก็ไม่มี ตนจึงคิดว่าการปรับครม.โดยนายกรักษาการในความคิดตนไม่น่าจะมี อีกทั้งพล.อ.ประวิตรก็ระบุไว้แล้วในส่วนของพรรคพลังประชารัฐไม่มีการปรับอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องรอให้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ข้อยุติจึงจะปรับครม.ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นคือประเด็นแรก ดังนั้นจึงไม่ควรดำเนินการปรับครม.ในตอนนี้ ซึ่งในอดีตตนเคยเห็นรักษาราชการแทนนายกฯก็ไม่มีใครเคยปรับครม. ดังนั้นหากศาลวินิจฉัยให้พล.อ.ประยุทธ์ยังทำหน้าที่ต่อไปได้ อำนาจการปรับครม.ก็เป็นของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว
ถามอีกว่า หากพล.อ.ประยุทธ์กลับมาโควต้าพรรคพลังประชารัฐ 2 ตำแหน่งที่ว่างอยู่จะเสนอบุคคลใดขึ้นมาทำหน้าที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรบอกว่าไม่มีการปรับครม. ก็แปลว่าไม่มีการเสนอ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยจะย้ายกลับมาพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ย้อนถามสื่อมวลชนว่า “จริงหรือ เพิ่งรู้เลยเนี่ย ขอบใจมาก และถ้าเกิดกลับมาก็ไม่มีปัญหาอะไร”นายสมศักดิ์กล่าว