เอาหล่ะ จะขอเล่าข่าวร้ายให้ฟัง ความจริงก็ไม่เชิงเป็นข่าวร้ายเสียทีเดียว แต่เป็นข่าวที่พวกเราราษฎรควรจะต้องรับรู้รับทราบร่วมกัน
เมื่อช่วงปรายเดือนที่ผ่านมา มีตำรวจไปขอออหมายจับคดี 112 แต่ศาลไม่ออกให้เพราะเห็นว่าพวกเรายังคงทำตามเงื่อนไขคือ ได้รับหมายเรียกก็ไปตามหมาย ถ้าไปไม่ได้ก็จะมีหนังสือเลื่อนมอบให้ทนายความนำไปมอบพนักงานสอบสวน แต่มีคนไม่พอใจ เขาอยากให้ศาลขังพวกเราที่ออกมาพูดเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ทั้งหมด ขังเพื่อไม่ให้พวกเราออกมาพูดเรื่องที่ไม่ดีเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
มิตรสหายท่านหนึ่งเล่าว่า ตอนนี้ศาลถูกกดดันอย่างหนักและอาจจะแบกรับความกดดันนี้ไม่ไหว ล่าสุดญาติของในหลวงรัชกาลที่ 10 และเป็นคนสนิท ได้ออกมาเรียกร้องให้ศาลขังราษฎรด้วยมาตรา 112 แม้จะไม่มีการพิจารณาคดีก็ตาม นั่นคือ ถ้ามีคนไปแจ้งความก็จะไม่ให้ประกัน ขังไปเรื่อยๆ โดยไปกดดันศาลว่าศาลไม่ควรไปให้สิทธิประกันตัว และยุยงให้คนไปดำเนินคดีกับศาลอีกต่างหาก
เราจะตีความปรากฎการณ์นี้อย่างไร จะให้เราตีความว่านี่คือการส่งข้อความอ้อมๆจากในหลวงรัชกาลที่ 10 ผ่านทางญาติคนนั้นได้หรือไม่ ถ้าใช่ นี่ก็ถือเป็นการใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เป็นการกดดันไปที่ศาลโดยตรง
มิตรสหายเล่าต่อไปอีกว่า หลังจากนี้ ถ้ามีการออกหมายจับราษฎรด้วยมาตรา 112 และไม่ให้ประกันตัว ก็ให้เข้าใจว่า ศาลได้แบกภาวะความกดดันนี้ไม่ไหวแล้ว
เล่ามาถึงจุดนี้ ผมคงไม่โกรธศาล เพราะท่านคงรับภาวะกดดันนี้ไม่ไหวจริงๆ
จากปรากฎการณ์ทั้งหมดในช่วงนี้ ทั้งการใช้ความรุนแรงจากตำรวจในการจับกุมและการขยายวงการแจ้งข้อหา การเล่นงานคนที่ยืนข้างฝ่ายราษฎรอย่างหนักหน่วง ก็เพราะเขามองว่าฝ่ายราษฎรไม่สามารถแสดงพลังกดดันในช่วงนี้ได้ เขาประเมินแล้วว่า ช่วงนี้พวกเราไม่สามารถชุมนุมกดดันที่มีพลังขนาดใหญ่เหมือนปีที่แล้วได้
จากวันนี้ไป ขอให้เพื่อนๆทุกคนตั้งสติ รับมือการใช้อำนาจทั้งในและนอกกฎหมายทุกรูปแบบ และตอบโต้การกระทำนั้นตามสมควรโดยยึดหลักไม่ใช้ความรุนแรง เราต้องยืนหยัดให้ผ่านช่วงเวลาวิกฤตินี้ไปให้ได้ ยืนระยะให้ได้
เมื่อถึงเวลา เราจะออกมายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง และสู้ให้สมศักดิ์ศรีของความเป็นคนที่เท่าเทียมกันกับพวกมัน
เชื่อมั่นและศรัทธา
อานนท์ นำภา
3 กุมภาพันธ์ 2564