กลัวแย่!ขับ 2 ส.ส.พ้นพรรค
เพื่อไทยจัดทัพใหม่รับเลือกตั้ง
มีมติขับ 2 ส.ส.ออกจากพรรค ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ จ.อุตรดิตถ์ และ พรพิมล ธรรมสาร จ.ปทุมธานี โดยคณะกรรมการจริยธรรมพรรคเพื่อไทย รวมทั้งภาคทัณฑ์ส.ส.3 คน จ.ศรีสะเกษและปทุมธานี ส่วนอีกคนส.ส.นครนายก ยังไม่โดนอะไร เพราะอยู่ในช่วงรักษาโควิด 19
เหตุผลคืออ้างถึงฝืนมติพรรคเพื่อไทยในญัตติซักฟอกรัฐบาลที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็ถือโอกาส’เช็กบิล’ส.ส งูเห่าหรือพวกแปรพักตร์ที่ทำตัวอย่างเปิดเผยท้าทาย เพราะอย่างกรณีของ’ก้อย’พรพิมล ชัดเจนมาตลอดตั้งแต่หลังเลือกตั้ง มี.ค.62 หลังจากนั้นก็ไม่เคยร่วมกิจกรรมกับพรรคอีกเลย
แม้จะยังเหลือขั้นตอนส่งเรื่องให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา และต้องผ่านที่ประชุมส.ส.โหวตเห็นชอบไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 แต่ในอีกด้านหนึ่ง สะท้อนถึงการจัดทัพและเตรียมการใหม่ของสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคที่เคยถูกปรามาสว่า ไม่เด็ดขาดและโดดเด่น ถึงขั้นหลายคนที่ไม่ใช่คอการเมืองพันธุ์แท้ คิดว่าสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นหัวหน้าพรรคด้วยซ้ำ
การจัดระเบียบใหม่ หวังคัดกรองเอาเฉพาะคนที่ทั้งตัวและใจยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น เพื่อร่วมขับเคลื่อนและเดินหน้าสู่สมรภูมิสำคัญ คือการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่พรรคจะกลับมาได้ลุ้นอีกครั้่งตามกติกาเลือกตั้งบัตร 2 ,ใบ และเปลี่ยนจากส.ส.เขตเลือกตั้ง 375 คน และปาร์ตี้ลิสต์ 125 คน ไปเป็น 400+100 คน ตามรัฐธรรมนูญ 40 ที่พรรคเพื่อไทย เคยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 44 ปี 48 และปี 50
หากทำสำเร็จได้ พรรคเพื่อไทยก็จะกลับมาเป็นพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลอีกครั้ง หลังจากบทบาทและความคาดหวังต่อพรรคของผู้คนตกฮวบฮาบลงหลังเลือกตั้่งมี.ค.62 แม้จะได้ส.ส.มากที่สุด แต่ไม่อาจรวบรวมเสียงส.ส.ได้มากกว่ากึ่งหนึ่ง ประกอบกับรธน.ฉบับมีชัย กำหนดให้ส.ว.250 คน โหวตเลือกนายกร่วมกับส ส.ได้ พรรคเพื่อไทยก็อยู่ในสภาพ’ช๊อต’ไปดื้อๆ ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ และ 3 แกนนำสำคัญ ธนาธร-ปิยยุตร-พรรณิการ์ ได้ขยับขึ้นมาเป็นคู่ต่อกรหลักของรัฐบาลและคสช.แทน
ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อไทยยังแตกดังโพล๊ะกระจัดกระจายให้เห็นอีก หากไม่นับส่วนหนึ่งที่ย้ายไปไทยรักษาชาติแล้ว ในสาย’อ้วน’ภูมิธรรม -‘หมอมิงค์’พรหมินทร์ – ‘หมอเลี๊ยบ’สุรพงษ์ ก็แยกไปตั้งกลุ่มแคร์ คิด เคลื่อนไทย สาย’หญิงหน่อย’สุดารัตน์ -โภคิน ก็แตกหักย้ายไปตั้งพรรคไทยสร้างไทย รอส.ส.บางส่วนที่ยังอยู่เพื่อไทยไปร่วม ส่วน’อ๋อย’ จาตุรนต์ กับพรรคพวก ก็เตรียมตั้งพรรคใหม่อีกพรรค ยังไม่นับบางคน เตรียมแยกย้ายไปตั้งพรรคใหม่ของตนเองเช่นกัน และอีกส่วนหนึ่ง เตรียมย้ายข้ามขั้วไปอยู่พลังประชารัฐ หรือพรรคใหม่ที่มีข่าวว่า ‘บิ๊กฉิ่ง’ฉัตรชัย พรหมเลิศ ได้รับมอบหมายจาก 3 ป.ให้จัดตั้งพรรคใหม่ ไว้รองรับเลือกตั้่งครั้งใหม่
ก่อให้เกิดคำถาม พรรคเพื่อไทยจะกลับมาใหญ่ได้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงความฝันที่’โจ้’ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ประกาศจะกวาดส.ส. 200 คนจากทั้งหมด 500 คน
ทุกคนมีสิทธิ์ฝันให้ไกล รวมทั้งพรรคเพื่อไทย แต่จะไปถึงหรือไม่ ยังต้องลุ้นต้องติดตามต่อไป
แต่ที่แน่ๆ ส ส.บางคนในพรรคบอกเฉยๆ ไม่กลัวอะไร เพราะช้อยส์ให้เลือกมีเยอะ และเพื่อไทยก็ยังไม่แน่ว่าจะกลับคืนมายิ่งใหญ่ดังเดิมได้จริงหรือไม่
ประจักษ์ มะวงศ์สา