วันที่ 22 มกราคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ พาณิชย์จังหวัด ปศุสัตว์จังหวัดและผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ระดมกำลังตรวจเช็กสต๊อกเนื้อหมูตามห้องเย็นในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการกักตุนที่ทำให้ราคาหมูแพงขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 มกราคม นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าฯสมุทรสาคร พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร ปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานต่างๆ ระดมกำลังเข้าตรวจสอบห้องเย็นพร้อมกัน 11 เป้าหมาย ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า นายกฯกังวลกรณีเนื้อสุกรมีราคาสูงขึ้น พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบการกักตุนเนื้อสุกรในห้องเย็น ที่ทำให้เนื้อหมูมีราคาแพง จึงบูรณาการกำลังกันทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบพร้อมกัน 25 จุดในจังหวัดปริมณฑล สำหรับ จ.สมุทรสาคร ตรวจสอบ 11 จุด จากการสืบสวนทราบว่ามี 25 บริษัทที่ประกอบธุรกิจห้องเย็น อาจเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ที่ครอบครองเนื้อสุกรเกิน 5,000 กก. โดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าบางบริษัทมีเนื้อสุกรเกินกว่ากฎหมายกำหนด บางรายอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้ง เนื่องจากเพิ่งทราบระเบียบ จะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนต่อไป หากพบว่าไม่ได้แจ้ง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 หรือหากแจ้งการครอบครองไม่ตรงกับความจริง จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด เพื่อตรวจสอบบริษัทห้องเย็นเหล่านี้ หากพบว่ายังมีพฤติกรรมกักตุนเนื้อหมู จนเป็นเหตุให้ราคาเนื้อหมูขึ้นสูงไปอีก ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดจะมีผู้แทนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ร้องทุกข์” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว
ด้านนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าฯสมุทรสาคร กล่าวว่า ขณะนี้มี 4 บริษัทห้องเย็น แจ้งการครอบครองเนื้อสุกรเกิน 5,000 กิโลกรัมแล้ว ยังมีอีกหลายบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้ง อ้างว่าเพิ่งได้รับหนังสือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคากลางสินค้าและบริการ
นายณัฐวุฒิ หุ่นมีทอง นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผู้ครอบครองสุกรมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละ ตั้งแต่ 5,000 กก. ขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง การซื้อ การจำหน่าย มิฉะนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง
ที่ จ.สงขลา ความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่พบซากหมูในโกดังบริษัท ปิติซีฟู๊ดส์ อ.จะนะ กว่า 2 แสนกิโลกรัมนั้น
นายพิสิทธิ์ ศรีวัฒนา กรรมการบริษัทปิติซีฟู๊ดส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯทำธุรกิจโกดังรับฝากอาหารแช่เยือกแข็งมาเป็นเวลา 30 ปีได้รับความเชื่อมั่นจากภาคเอกชน เมื่อมีการนำสินค้ามาฝากต้องมีการสำแดงเอกสารถูกต้องจากทางราชการจึงรับฝาก จึงขอความเป็นธรรมด้วยว่าบริษัทไม่ได้กักตุนหมู
น.ส.ฉัตร์สุดา ชุมแสง พานิชย์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารและการชี้แจงของบริษัทเบทาโกรที่เป็นผู้ฝากเนื้อสุกรในห้องเย็นบริษัทปิติซีฟู๊ดส์ ระบุว่า ส่วนที่ไม่ได้แจ้งเนื่องจากในเอกสารแบบแจ้ง ไม่มีรายการสินค้าเนื้อหมูที่ครอบครองให้แจ้ง อาทิ หมูบด ขาหมู ซี่โครงและหมูสามชั้นแผ่น เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าตรงกับเอกสารการฝากในห้องเย็น จึงไม่ถือว่าแจ้งความเท็จกับเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นได้ตรวสอบบัญชีควบคุมการนำเข้าและนำออกสินค้าทั้ง 2 บริษัท พบว่ามีการรับเข้า-นำออกเป็นปกติตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564-เดือนมกราคม 2565 จึงไม่เข้าข่ายกักตุนสินค้า
