วันที่ 16 ตุลาคม.2560.เวลา.02:32.น.ภาพที่ถ่ายจากวิดีโอของสำนักข่าวเมโซโปตัมยาสื่อชาวเคิร์ดที่ตั้งสำนักงานอยู่ในตุรกี ซึ่งสำนักข่าวเอพีได้รับมาเมื่อวันศุกร์ (13 ต.ค.) แสดงให้เห็นนักรบ SDF และพลเรือนชาวซีเรียที่หลบหนีออกจากพื้นที่ซึ่งยังอยู่ในความควบคุมของพวกไอเอส ในเมืองร็อกเกาะฮ์ประเทศซีเรีย
รอยเตอร์/เอเอฟพี/–กองกำลังกบฏซีเรียที่หนุนหลังโดยสหรัฐฯ ประกาศในวันอาทิตย์ (15 ต.ค.) ว่าได้เริ่มเปิดฉากทำศึก“ระยะสุดท้าย”ในการชิงเมืองร็อกเกาะฮ์กลับคืนมาหลังจากขบวนนักรบ“รัฐอิสลาม”(ไอเอส)และพลเรือนจำนวนหนึ่งได้เดินทางออกไปจากเมืองตามที่ตกลงกันเหลืออยู่แต่พวกฮาร์ดคอร์ซึ่งระบุกันว่าเป็นกลุ่มนักรบไอเอสชาวต่างชาติและญาติพี่น้องบางคน “การสู้รบจะดำเนินไปจนกว่าทั่วทั้งเมืองจะสะอาดแล้ว”เป็นคำแถลงของ“กองกำลังประชาธิปไตยชาวซีเรีย”(SyrianDemocraticForces หรือ SDF)ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรของกองกำลังท้องถิ่นชาวเคิร์ดและชาวอาหรับที่ได้รับการฝึก,ติดอาวุธ,และให้การสนับสนุนโดยสหรัฐฯ
โฆษกของ SDF ตอลัล เซโล บอกว่า มีนักรบไอเอสที่เป็นชาวซีเรีย 275 คนถอนตัวออกไปจากเมืองพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวที่เป็นพลเรือน ทิ้งให้นักรบไอเอสที่เป็นคนต่างชาติ “ไม่มากไปกว่า 200 – 300 คน” ยังคงยึดที่มั่นเพื่อทำการสู้รบต่อไป ภายใต้เงื่อนไขในการถอนตัวออกไปของพวกเขา พลเรือนอื่นๆทั้งหมดที่เหลืออยู่ในร็อกเกาะฮ์จะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกไปจากเมืองได้โดยปลอดภัย เซโลกล่าวพร้อมกับระบุว่าเขาเชื่อว่าเวลานี้มีพลเรือนเหลืออยู่ในเมืองเพียงไม่กี่คนเท่านั้น SDF นั้นได้เริ่มบุกตีเมืองร็อกเกาะฮ์มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเวลานี้ยึดครองพื้นที่ราว 90% ของตัวเมืองแล้ว หลังจากการถอนตัวของนักรบไอเอสชาวซีเรียเช่นนี้
จึงดูใกล้ที่ตีได้ทั้งเมืองเต็มทีแล้วอย่างไรก็ดี พ.อ.ไรอัน ดิลลอน ผู้ทำหน้าที่โฆษกให้พันธมิตรนานาชาติที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำ ซึ่งกำลังหนุนหลัง SDF ในการทำสงครามปราบปรามไอเอส กล่าวเตือนว่า “เรายังคงคาดหมายว่าจะเจอกับการสู้รบที่ยากลำบาก”นักรบ SDF และพลเรือนชาวซีเรียที่หลบหนีออกจากพื้นที่ซึ่งยังอยู่ในความควบคุมของพวกไอเอส ในเมืองร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย(ภาพที่ถ่ายจากวิดีโอของสำนักข่าวเมโซโปตัมยา สื่อชาวเคิร์ดที่ตั้งสำนักงานอยู่ในตุรกี
ซึ่งสำนักข่าวเอพีได้รับมาเมื่อวันศุกร์ 13 ต.ค.)ภาพที่ถ่ายจากวิดีโอของสำนักข่าวเมโซโปตัมยา สื่อชาวเคิร์ดที่ตั้งสำนักงานอยู่ในตุรกี ซึ่งสำนักข่าวเอพีได้รับมาเมื่อวันศุกร์ (13 ต.ค.) แสดงให้เห็นนักรบ SDF และพลเรือนชาวซีเรียที่หลบหนีออกจากพื้นที่ซึ่งยังอยู่ในความควบคุมของพวกไอเอส ในเมืองร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย ร็อกเกาะฮ์เป็นเมืองใหญ่ในซีเรียแห่งแรกที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของกลุ่มไอเอส ซึ่งได้ประกาศก่อตั้ง“รัฐกาหลิบ”แบบอิสลามขึ้นมาในดินแดนกว้างใหญ่ระหว่างซีเรียกับอิรักที่ตีชิงมาได้ในปี 2014 หลังจากนั้นเมืองนี้ก็ได้กลายเป็นศูนย์ปฏิบัติการสำหรับการก่อการโจมตีในต่างแดนของไอเอส ตลอดจนเป็นเวทีของการสังหารหมู่อันโหดร้ายทารุณที่สุดบางเหตุการณ์ของนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ทว่า “รัฐอิสลาม” ต้องตกเป็นฝ่ายล่าถอยในระยะ 2 ปีหลังมานี้ โดยกำลังสูญเสียดินแดนผืนใหญ่หลายผืนทั้งที่อิรักและซีเรีย และถูกกดดันให้ถอยกลับเข้าไปยังที่มั่นซึ่งพื้นที่หดแคบลงไปเรื่อยๆตามแนวหุบเขายูเฟรติส
“เมื่อคืนนี้ (เสาร์ที่14) นักรบกลุ่มสุดท้าย(ซึ่งทำข้อตกลงยอมถอนตัว)ได้ออกไปจากเมืองแล้ว”มอสตาฟา บาลี โฆษกอีกคนหนึ่งของ SDF บอกมีรายงานสับสนขัดแย้งกันเองในเรื่องจำนวนผู้คนในขบวนรถลำเลียงที่ล่าถอยออกไปจากเมือง ตลอดจนผู้คนเหล่านี้เป็นใครกันบ้าง เซโลกล่าวว่านักรบไอเอสชาวซีเรีย 275 คนถอนตัวไปพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา ขณะที่ ไลลา มอสตาฟา ประธานของสภาพลเรือนแห่งร็อกเกาะฮ์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาภายใต้การอุปถัมภ์ของ SDF เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการพลเรือนของเมืองบอกว่าตัวเลขดังกล่าวรวมเอาพวกนักรบและสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาเอาไว้หมดแล้วเธอกล่าวด้วยว่าเรื่องที่สมาชิกสภาอีกคนหนึ่งได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่ามีนักรบไอเอสที่เป็นคนต่างชาติบางคนถอนตัวไปกับขบวนรถลำเลียงคราวนี้ด้วยนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ก่อนที่ขบวนรถดังกล่าวเดินทางออกไป พันธมิตรนานาชาติที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำเคยประมาณการว่ามีนักรบไอเอสที่ยังอยู่ในร็อกเกาะฮ์อีกราว 300 – 400 คน
ภาพที่ถ่ายจากวิดีโอของสำนักข่าวเมโซโปตัมยาสื่อชาวเคิร์ดที่ตั้งสำนักงานอยู่ในตุรกี ซึ่งสำนักข่าวเอพีได้รับมาเมื่อวันศุกร์ (13 ต.ค.) แสดงให้เห็นพลเรือนชาวซีเรียที่หลบหนีออกจากพื้นที่ซึ่งยังอยู่ในความควบคุมของพวกไอเอส ในเมืองร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย ชุมนุมกันในจุดซึ่งกองกำลัง SDF กำหนดไว้โล่มนุษย์ขบวนรถลำเลียงนี้จะมุ่งหน้าไปยังดินแดนที่ไอเอสยังยึดครองอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกของซีเรีย โอมาร์ อัลลูช แห่งสภาพลเรือนแห่งร็อกเกาะฮ์กล่าวในวันเสาร์ (14)เซโลบอกว่าจนกระทั่งถึงตอนเช้าวันอาทิตย์ (15) ขบวนรถลำเลียงนี้ยังคงอยู่ในพื้นที่ซึ่ง SDF ยึดครองอยู่ ส่วนบาลีพูดถึงพลเรือนที่ออกไปจากเมืองพร้อมกับพวกนักรบไอเอสในขบวนรถดังกล่าวว่า อยู่ในฐานะเป็นโล่มนุษย์ บาลีขยายความว่านักรบไอเอสปฏิเสธไม่ยอมปล่อยพลเรือนเหล่านั้นในทันทีที่ออกจากเมืองไปตามที่มีการตกลงกันไว้โดยยังคงต้องการนำพวกเขาไปให้ไกลที่สุดในระหว่างการเดินทางถอยหนี
เพื่อใช้เป็นเครื่องค้ำประกันความปลอดภัยของนักรบไอเอสเหล่านี้เอง การถอนตัวของพวกนักรบโดยนำเอาพลเรือนกลุ่มหนึ่งไปด้วยกำลังกลายเป็นเรื่องสามัญไปเสียแล้วในสงครามกลางเมืองซีเรียที่ดำเนินมา 6 ปี ในฐานะเป็นวิธีการที่จะทำให้กองกำลังอาวุธซึ่งกำลังถูกปิดล้อมอยู่ ยอมถอนตัวออกไป และทำให้ฝ่ายที่เข้าตีสามารถยึดพื้นที่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับข้อตกลงคราวนี้เกิดขึ้นได้โดยที่มีสภาพลเรือนแห่งร็อกเกาะฮ์และพวกอาวุโสของชนเผ่าเป็นตัวกลาง ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะ “ลดการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนให้เหลือน้อยที่สุด” พันธมิตรนานาชาติแถลงในวันเสาร์ (14) ขณะที่พวกผู้นำชนเผ่าต่างๆ จากร็อกเกาะฮ์บอกว่า พวกเขาหวังหาทางป้องกันไม่ให้พลเรือนที่ยังคงติดอยู่ในเมืองนี้ต้องสูญเสียเลือดเนื้อ มาถึงตอนนี้ เซโลกล่าวว่า“ถ้าหากยังมีพลเรือนใดๆยังคงอยู่(ในสถานที่หลบซ่อนภายในเมืองนี้)พวกเขาก็จะต้องเป็นครอบครัวของ(นักรบไอเอสที่เป็น)คนต่างชาติพวกนั้น เพราะพลเรือนได้ถอยออกจากเมืองไปหมดสิ้นแล้ว”
สตรีชาวซีเรียที่ได้รับบาดเจ็บผู้หนึ่ง (กลาง) ร้องไห้โฮขณะสวดกอดสตรีอีกผู้หนึ่ง ภายหลังพวกเธอหลบหนีออกมาจากพื้นที่ซึ่งยังอยู่ในความควบคุมของพวกไอเอส ในเมืองร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย(ภาพที่ถ่ายจากวิดีโอของสำนักข่าวเมโซโปตัมยา สื่อชาวเคิร์ดที่ตั้งสำนักงานอยู่ในตุรกี ซึ่งสำนักข่าวเอพีได้รับมาเมื่อวันศุกร์ 13 ต.ค.)การที่ SDF ตัดสินใจเร่งรัดให้การสู้รบจบลงด้วยการอนุญาตให้พวกนักรบไอเอสบางส่วนถอนตัวจากร็อกเกาะฮ์เช่นนี้ นับว่าผิดแผกแตกต่างไปจากความปรารถนาซึ่งระบุเอาไว้ของกลุ่มพันธมิตรนานาชาตินำโดยสหรัฐฯที่ได้ให้ความสนับสนุน SDF ทั้งด้วยการโจมตีทางอากาศและการส่งกองทหารหน่วยรบพิเศษเข้ามาเป็นที่ปรึกษาดิลลอนกล่าวในวันอาทิตย์ (15) ว่า ทางกลุ่มพันธมิตรนานาชาติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการอพยพออกไปของพวกนักรบไอเอส แต่ก็เสริมว่า“เราอาจจะไม่เห็นด้วยอย่างเต็มที่เสมอไปกับพวกหุ้นส่วนของเราในบางครั้งบางคราว แต่เราก็ต้องเคารพวิธีการจัดการกับปัญหาของพวกเขา”เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรนานาชาติใช้เวลาหลายสัปดาห์ทีเดียวในการขัดขวางไม่ให้ขบวนลำเลียงของนักรบไอเอสซึ่งอพยพออกจากที่มั่นตรงบริเวณพรมแดนระหว่างซีเรียกับเลบานอน
เดินทางไปถึงดินแดนของไอเอสในภาคตะวันออกของซีเรียโดยที่นักรบไอเอสเหล่านี้ยอมถอนตัวภายหลังทำความตกลงกับกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียและกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ที่ปิดล้อมพวกเขาอยู่สำหรับการสู้รบชิงเมืองร็อกเกาะฮ์ที่ผ่านมาได้สร้างความสูญเสียอย่างหนักหน่วงให้แก่ประชาชนในเมืองนี้ โดยตัวเมืองจำนวนมากได้ถูกทำลายกลายเป็นซากปรักหักพังทั้งจากการถล่มโจมตีอย่างตั้งใจของกลุ่มพันธมิตรนานาชาติและจากการสู้รบแบบประชิดตัวไล่ล่ากันไปตามถนนทีละสายซึ่งดำเนินมาเป็นแรมเดือนผู้คนนับหมื่นนับแสนต้องหลบหนีกลายเป็นผู้ลี้ภัยขณะที่พลเรือนเสียชีวิตไปอย่างน้อยหลายร้อยคนในอีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวฝ่ายทหารของรัฐบาลซีเรียระบุในวันเสาร์(14) ว่า กองทัพสามารถเข้ายึดเมืองมายาดีนในหุบเขายูเฟรตีสซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดเดอีร์ เอสซอร์ ทางภาคตะวันออกของซีเรียเอาไว้ได้แล้วทำให้เวลานี้ไอเอสเหลือดินแดนที่ยึดเอาไว้ได้ในซีเรีย เพียงแค่เมืองเล็กๆและหมู่บ้านอีกไม่กี่แห่งตลอดจนบริเวณที่อยู่รอบๆทะเลทรายเท่านั้น
สำนักข่าววิหคนิวส์