ออกมาประกาศย้ำชัดๆ ให้ฟังกันเลยทีเดียว สำหรับพระเอกหนุ่ม “กอล์ฟ พิชญะ” ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือออกมาหนาหูว่าความสัมพันธ์กับหวานใจสาว “ขวัญ อุษามณี” อยู่ในช่วงหมดโปรโมชั่น ทั้งคู่เริ่มห่างกันแล้ว เพราะไม่ค่อยเห็นภาพหวานๆ คู่กันออกมาให้เห็นเหมือนเมื่อก่อน
งานนี้ กอล์ฟ พิชญะ จึงออกมายืนยันให้ฟังว่า ไม่ได้ห่างและไม่ได้เลิกกันแน่นอน ตอนนี้ยังเจอกันปกติ เพียงแต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปคู่เท่านั้นเอง
กับขวัญตอนนี้เป็นไงบ้าง ?
“ดีครับ คนคิดว่าห่างกันเพราะไม่ค่อยลงรูป แต่ว่ามันไม่ได้เกี่ยวกัน รู้อยู่แล้วว่าคนจะชอบว่าหมดโปรรึเปล่า กอล์ฟว่ามันไม่เกี่ยว พอระหว่างที่เราคบกับปีกว่าๆ มันมีอะไรหลายๆ อย่าง เรื่อยๆ งานก็เริ่มเข้ามา ธุรกิจที่เราต้องทำตอนเริ่มต้นมันอาจจะไม่หนักมาก พอหลังๆ มันหนัก บางอย่างมันมีปัญหาต้องปรับจูนหลายสิ่ง ทำให้เราเหนื่อยมาก และบางทีการที่เรามาเจอกันแทบจะสภาพเยิน ยกโทรศัพท์มาดูหน้าตัวเองแล้วแบบ… งั้นไม่ถ่ายละกัน แต่ก็ยังเจอกันปกติ ถึงแม้จะไม่เจอกันเท่ากับช่วงแรกๆ เพราะพอเสร็จงานน้องก็เริ่มการถ่ายละคร แต่เราก็ยังมีโอกาสถ้าว่างก็ไปดูหนังกันนะ ไปกินข้าว เมื่อวานก็ยังเจออยู่เลย”
ไม่ได้ออกสื่อบ่อยอย่างที่ผ่านมา ?
“ก็อย่างที่บอกละครับ สภาพไม่ไหวหน้าไม่พร้อม เมื่อวานลงรูปที่ลงถ่ายกับน้องไปเล่นๆ ก็ เห้ย น้องหัวฟูอะ (หัวเราะ) สภาพแต่ละคนไม่ไหวแล้ว”
การดูแลซึ่งกันและกันยังเหมือนเดิมไหม ?
“ก็เหมือนเดิมนะ กอล์ฟรู้สึกว่าเหมือนเดิมทุกอย่าง ถ้ามีเวลาก็อยากจะเจอเขาสม่ำเสมอหละครับ”
มีการน้อยใจเรื่องของเวลาที่ไม่ค่อยตรงกันบ้างไหม ?
“ไม่มี๊ (เสียงสูง) ไม่มีครับ คือในความสัมพันธ์ถ้าจะให้พูดว่าเพอร์เฟคก็โกหกเนอะ เพราะในความสัมพันธ์ในการที่คบกันมันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่อยู่ที่เราจะผ่อนหนักผ่อนเบา เข้าใจกัน เวลามีความสุขก็มีความสุข เวลาทำอะไรไม่ดีก็ขอโทษกัน มันถึงจะไปข้างหน้าด้วยกันได้ ถ้าเราไม่เข้าใจกันก็คงจบอะครับ”
มีส่วนไหนที่กอล์ฟต้องปรับตัวอยู่ ?
“มันก็ทั้งคู่ครับ มันไม่ใช่ว่าน้องงอน หรือกอล์ฟงอน มันก็มีกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ด้วยความที่โตแล้ว พยายามเข้าใจซึ่งกันและกัน พอเริ่มเกิดความรู้สึกตรงนั้นขึ้นมา เราก็พยายามจะดึงเหตุผลเข้ามาว่าคงเพราะเราเหนื่อยเราทำงานเยอะ แต่ว่าทุกอย่างมันก็โอเคถ้าเราเข้าใจกัน ถ้าเราคุยกัน ความสัมพันธ์ต้องคุยกัน”
ส่วนมากเรื่องที่ต้องปรับจูนเข้าหากันคือเรื่องอะไร ?
“(คิดนาน) ขอเรียนรู้กันและกันดีกว่านะ”
ช่องว่างที่เกิดขึ้นเราสามารถปรับแก้กันได้ใช่ไหม ?
“ไม่มีช่องว่าง (ยิ้ม)”
อย่างก่อนหน้านี้ที่แม่ของขวัญป่วย ได้ให้กำลังใจอะไรบ้าง ?
“ก็บอกให้กำลัง พอดีคุณแม่ไปหาหมอวันที่กอล์ฟมีจัดงานวันเกิดคุณแม่พอดี คนก็เลยเข้าใจว่าทำไมขวัญไม่ไป แต่ว่าน้องก็ต้องมีภาระก็ต้องดูแลคุณแม่ พาคุณแม่ไปหาหมอ แล้วพอมันถึงช่วงงานวันเกิดเราก็ต้องดูแลแม่ งานวันเกิดก็เลยไม่ได้มา แต่ไม่อยากให้เข้าใจว่าตีกัน ไม่ใช่เลย”
ขวัญดูเครียดไหมกับอาการของคุณแม่ ?
“ก็คงเหมือนทุกๆ คนทั่วไป ถ้าคุณแม่ป่วยเราก็ต้องพยายามดูแลให้ดีที่สุด”
ได้ไปเยี่ยมหรือยัง ?
“ก็ล่าสุดกอล์ฟเจอคุณแม่ที่มาออกบูธ คุณแม่ก็ยังโอเคอยู่นะ แต่ว่าก็ต้องดูแลอยู่นิดนึง”
ช่วงนี้ขวัญก็ต้องดูแลคุณแม่มากขึ้น ได้คุยกันถึงตรงนี้ไหม หลังจากนี้ขวัญอาจต้องให้เวลากับคุณแม่มากขึ้น ?
“ช่วงนี้จริงๆ น้องก็อยู่กับคุณแม่บ่อยนะครับ”
กอล์ฟจะไปเจอคุณแม่พร้อมน้องเลยไหม ?
“ส่วนมากกอล์ฟจะทำงานวันธรรมดา พอเสร็จงานก็จะไปเจอน้อง อยู่ข้างนอก หรืออยู่ออฟฟิศ เพราะเรามีออฟฟิศด้วยกัน ก็จะเจอที่ออฟฟิศบ้าง ไปกินข้าวด้วยกันบ้าง ถ้าวันที่จะเจอคุณแม่จริงๆ ก็จะเป็นเสาร์ อาทิตย์ ซึ่งเสาร์อาทิตย์บางทีน้องก็ต้องไปถ่ายแอด ถ่ายนู่นถ่ายนี้ ก็น้อยอะ”
แต่ก็ให้กำลังใจมากกับคุณแม่ ?
“ใช่ๆ แม่ก็ยังถามว่าเป็นยังไงบ้าง”
การมีความรักท่ามกลางสปอร์ตไลท์ ทำให้เราทำตัวลำบากมากขนาดไหน ?
“นิดนึง เพราะว่าบางทีพอเราไม่ลงรูปเราก็จะเห็นคอมเมนท์ ทำไมไม่ลงรูปคู่เลย คือเข้าใจว่าแฟนๆ รักทั้งกอล์ฟทั้งขวัญ คนเชียร์เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยแต่บางทีอยากจะบอกให้ทุกคนเข้าใจว่าการที่ไม่ลงรูป มันไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้รักกัน ช่วงแรกๆ ที่ลงมันอาจไม่ได้เรียกว่าโปรโมชั่น มันอาจเรียกว่ามีเวลาและงานยังไม่เข้าเยอะ และตอนนี้กอล์ฟทำธุรกิจเพิ่มอีก 2 ตัว เป็นแฟชั่น นอกจากครีมแล้วมีธุรกิจแฟชั่นต้องลงไปดู วันที่จะไปธุรกิจตัวเองยังไม่มีเลยเพราะว่าถ่ายละครด้วย ทุกๆ อย่างทั้งหมดทั้งมวลก็พยายามเต็มที่เพื่อสร้างรากฐานตัวเองให้มันดีที่สุด ให้มันโอเค”
อย่างก่อนหน้านี้ที่เราตอบกลับในคอมเมนท์ ไม่เลิกโว้ย โมโหหรือว่าเราแค่เล่นๆ ?
“เล่นๆ ครับ มันเป็นความรู้สึกที่ โห คอมเมนท์เยอะมากเลย แล้วบางคนก็เป็นพวกที่ฟอลโล่เวอร์ศูนย์ หรือตั้งไอจีมาแล้วใส่รูปแปลกๆ เข้าใจว่ามีกลุ่มบางคนที่อาจจะมีแอนตี้หรือเสี้ยม เราก็ไม่ได้โว่ก็กดเข้าไปดูสิ อ๋อ อาการแบบนี้น่าจะเป็นการตั้งไอจีใหม่มาเจาะแจ๊ะเรา เราก็อะไรหนักหนา ไม่เลิกโว้ย เหมือนกลัวคนเข้าใจผิดว่า เดี๋ยวเลิกกันแล้วกลายเป็นประเด็นเกินไปว่าเราเลิกกัน ไม่ได้เลิกโว้ย!”
กลัวไหมว่าคนแอนตี้พอเห็นช่องว่างปัญหาของเราเขาจะมาซ้ำ ?
“ไม่ได้กลัวขนาดนั้นนะครับ ก็คุยกับน้องเสมอว่าเวลาเรามีปัญหา เราคุยด้วยเหตุผลให้จบและเคลียร์ให้เร็วที่สุด เพราะเราไม่อยากให้ใครมาแฝงตัวหรือซึมซับเข้ามาเสี้ยมอะไรแบบนั้น”
ไม่มีผลอะไรกับเราใช่ไหม ?
“เราสองคนก็ต้องแข็งแรงพอ”
Cr. Sanooknews
สำนักข่าววิหคนิวส์