ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #การต่อต้าน !! จะเข้าสู่โหมดแตกหัก นำพาชาติสู่วงจรอุบาทว์ ต้องถอยเพื่อรุก เปิดกลยุทธ์แนวกันชน

#การต่อต้าน !! จะเข้าสู่โหมดแตกหัก นำพาชาติสู่วงจรอุบาทว์ ต้องถอยเพื่อรุก เปิดกลยุทธ์แนวกันชน

21 January 2018
954   0

21 มกราคม 2561 ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ได้โพสข้อความทางเพจเฟสบุ๊คระบุว่า การต่อต้านทางสังคม กำลังขยายตัวขึ้นตามเวลาของมัน แดง เปิดเกมส์นี้ก่อน โดยยึดหลักวาทกรรมยกเลิก ม.44 จำนวน 35 ฉบับ ควบคู่กับการพา2นายใหญ่กลับบ้าน

อันเป็นกลยุทธ์การก่อตัวทางการเมือง เดิมๆปลุกทั้งนอกในประเทศ ก่อเหตุทั้งในพระนครและภาคใต้ตามสูตรกลยุทธ์ทางการเมือง เพื่อเข้าสู่การแตกหัก

ปัจจุบัน เหลือง ฟ้า เขียว ได้เกิดการก่อตัวทางการเมือง แสดงตนชัดเจน ในลักษณะการต่อต้านทางสังคม และใช้สื่อใหม่เป็นเครื่องมือ ทั้ง นักร้อง นักแสดง พิธีกร ดารา คนทั่วไป ในการสะท้อนความรู้สึก จากแรงหนุนจึงกลายเป็นแรงต้าน แน่นอนปลายทาง คือ ทุกพวก ทุกเหล่า ทุกฝ่าย ทุกสี จะเคลื่อนตัวสู่การแตกหักในที่สุด

สิ่งที่เคยทำดีมาจะกลายเป็นการถูกประณาม หยามเหนียด หลอกลวง โกหก ตอแหล ทุจริต จะถูกมองกระทำเพื่อประโยชน์ของตน พวกพ้องเพียงไม่กี่คน โดยเฉพาะบรรดาเจ้าสัว ที่ตั้งเป็นคณะกรรมการ ในการใช้ประชานิยมสุดโต่ง

จะขยับขึ้นไปต่อ เพื่อมีตำแหน่งหน้าที่ ที่สูงขึ้น นานวันจึงยากที่จะไปต่อ จะไม่มีใครกล้าพาไป เพราะจะทำให้เกิดแปดเปื้อนไปด้วย หมากในกระดานนี้เดินมาจนสุดกระดานแล้ว ปล่อยต่อไปจะเกิดการแตกหัก เสียเลือดเนื้อ ตั้งแต่ 31 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

ดั่งอดีตตลอด 86 ปีที่ผ่านมา และจะเห็นชัดถึงความล้มเหลว เชิงการบริหาร ทำให้วงศ์ตระกูล เพื่อนที่เคยร่วมอาชีพ และชาติ เสียหาย ปลายทางไม่หนี ก็ต้องติดคุก ทุกรายไป ทางออกที่สวยงามที่สุด จะลดแรงต่อต้านทางสังคมได้ดี ยุติการแตกหนัก ต้อง “ถอยเพื่อรุก” แล้วเปิดกลยุทธ์ “แนวกันชน”

นำผู้เชี่ยวชาญ 3 ด้าน ด้านปฏิรูปประเทศ เศรษฐกิจ และการเมือง เข้ามาแก้ไขปัญหา ชาติในระยะสั้นๆ จนเกิดการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งทุกพวก ทุกเหล่า ทุกฝ่ายจะยอมรับ โดยทีมใหม่ จะยึดหลัก “สมประโยชน์” เพื่อให้เกิดการยอมรับ ทั้ง นักการเมือง นักการทหาร ประชาชน เมื่อเกิดการยอมรับ เกิดปฏิรูปอย่างเป็นระบบ การต่อต้านสถาบันชาติ ล้มเจ้า ก็จะเป็นอันยุติลง ด้วยตัวของมันเอง

แดนศิวิไลซ์ก็จะบังเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างจะเข้าสู่รากฐานความมั่นคง ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้ประเทศไทย จะกลายเป็น “สุวรรณภูมิ” ในรัชกาลปัจจุบัน อันจะเกิดความร่มเย็นเป็นสุข อันจะเป็นเกียรติประวัติศาสตร์อันสำคัญประจำพระองค์ ที่จะมีในทุกราชกาล ที่จะได้รับการยกย่อง ชั่วลูกหลาน ดั่งราชกาลผ่านๆมา

สิ่งเหล่านี้คืออนาคตของชาติไทย ที่พวกเราคนไทย ที่รักในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องร่วมกันแก้ไข ทำกันอย่างสุดกำลัง เพื่อมิให้ชาติกลับสู่วงจรอุบาทว์ที่คณะราษฏรได้สร้างไว้อีกต่อไป ที่จะวนไปในหลักเดิม คือ เลือกตั้ง-ทุจริต-นองเลือด-รัฐประหาร-ร่างรธน.

แดนศิวิไลซ์รอพวกเราคนไทยอยู่ข้างหน้า จึงต้องร่วมแรงร่วมใจกันอย่างสุดกำลัง ในการนำพาชาติเข้าสู่ความ สามัคคีปรองดอง สันติสุข ในที่สุด

“ การร่วมแรงร่วมใจนั้น คือการร่วมกัน คนละไม่ละมือ มุ่งมั้นทำเพื่อประโยชน์ของชาติ ให้เกิดความสุขทุกตัวทั่วคน “

สำนักข่าววิหคนิวส์