ดร. ปราโมทย์ นาครทรรพ ได้โพสข้อความระบุว่า
การเลือกตั้งมิใช่จะทำให้เกิดประชาธิปไตยได้โดยอัตโนมัติ
แท้จริงการเลือกตั้งที่ทำลายประชาธิปไตยมีมากกว่าการเลือกตั้งที่สร้างประชาธิปไตย
การเลือกต้ังจะเป็นประชาธิปไตยได้ก็ต่อเมื่อครบสามองค์ประกอบคือ
Free. Fair, & Representative
Free คือความเป็นอิสระเสรีด้วยประการทั้งปวง ปลอดจากการครอบงำใดๆไม่ว่าจะเป็นอำนาจรัฐ กฏหมู่ อำนาจท้องถิ่น อำนาจตำรวจ ทหารหรืออันธพาล อำนาจกฎหมาย ศาสนาและอำนาจเงิน หรือแม้กระทั่งสภาพธรรมชาติได้แก่ความยากจน ความไม่รู้ หรืออวิชชา พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงดำรัสว่าตราบใดประชาชนยังอยากจน เขาจะยังไม่สามารถเป็นประชาธิปไตยได้
Fair คือความยุติธรรมด้วยประการทั้งปวง ปราศจากการเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกันโดยตั้งใจหนือไม่ตั้งใจ โดยกฏหมาย โดยอำนาจหรือกลไกของรัฐ โดยอำนาจเงิน อำนาจกลุ่มอำนาจ้องถิ่น แม้กระทั่งการโฆษณาที่เป็นบริการของรัฐหรือเอกชน ที่ซื้อเองหรือได้รับการจัดสรรก็ตาม ก็จะต้องมี equal time rule หรือการแบ่งเวลาให้เท่าเทียมเสมอกัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาทีวี ซื่อไอทีหรือเวทีหาเสียง. ขณะที่เขียนนี้หลักฐานที่ผ่านมา ปรากฏว่ากกต.กระทำผิดการแบ่งเวลาและเวทีให้เท่าเทียมอย่างชัดแจ้ง การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ fair หรือขาดความยุติธรรมอย่างสิ้นเชิง
Representative คือการเลือกตั้ง โอกาสของการเลือกตั้ง และผลของการเลือกตั้งจะต้องมีหลักประกันว่า ผู้เลือกตั้ง เขตเลือกตั้ง และประชาชนจะต้องมีความแน่นอนและพอดีในการมีตัวแทนของตน
การเลือกตั้งเดือนมีนาคม ๒๕๖๒นี้ไม่สามารถรักษาหลักเกณฑ์ทั้ง ๓ ได้แม้แต่อย่างเดียว ทั้งนี้เพราะการยึดอำนาจอย่างยาวนานของคสช. ไม่เปิดโอกาสให้มีการเตรียมตัวที่ถูกขั้นตอนทั้งเงื่อนไขและเงื่อนเวลา รัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมืองและการเลือกตั้งไม่เอื้ออำนวย และความล้มเหลวในการเตรียมและบริการการเลือกตั้งอันเป็นความอ่อนด้อยของกกต.
ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่าการเลือกต้ังครั้งนี้ถ้าหากราบรื่นก็จะไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ในความเป็นจริงความราบรื่นเรียบร้อยไม่มีทางจะเป็นไปได้ จะเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย และการทุจริตคดโกงการเลือกตั้งทุกรูปแบบ จนอาจเกิดวิกฤตทางการเมืองและสภาพอนาธิปไตยอย่างรุนแรง
สถาบันกษัตริย์ ในยุโรปที่ล่มสลายโดยขบวนการและการเลือกตั้งตามแผนของIlluminati
Cr.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ
สำนักข่าววิหคนิวส์