วันนี้ (10 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงความคืบหน้าการพิจารณาศึกษาการสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ที่จะมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย เพื่อหารายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจากสถานการณ์เชื้อโควิด-19 ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร มาศึกษาความเป็นไปได้เรื่องดังกล่าว ตั้งแต่ปลายปี 2564 ขณะนี้ กมธ.ได้รวบรวมศึกษาข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีข้อเสนอให้ก่อสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย โดยมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย เตรียมนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวันที่ 12 ม.ค.นี้ หากสภาให้ความเห็นชอบจะส่งเรื่องให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานของ กมธ.สนับสนุนการตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจร ที่จะมีทั้งโรงแรม 5 ดาวห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สถานเสริมความงาม สปา สวนสนุก สวนสัตว์ สนามกีฬาในร่มและกลางแจ้ง เช่น โบว์ลิ่ง สนุกเกอร์ สนามมวย สนามแข่งรถ โดยมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายอยู่ในพื้นที่ร้อยละ 5 ของสถานบันเทิงแบบครบวงจร โดยมีการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการสถานบันเทิงแบบครบวงจร ควบคุม และกำกับการจัดตั้งกาสิโน มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน การลงทุนก่อสร้างควรมีขนาดใหญ่กว่าประเทศสิงคโปร์ ให้เป็นการลงทุนร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ยึดถือแนวทางการบริหารจัดการแบบเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และประเทศสิงคโปร์ สถานที่ก่อสร้างเสนอไว้ 3 พื้นที่ได้แก่ 1. กทม.และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในรัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตร จากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา 2. จังหวัดท่องเที่ยวหลัก 22 จังหวัด 3. จังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หากเป็นภาคใต้ควรสร้างที่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ภาคเหนือ เช่น จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี หนองคาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ได้ทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยวิทยาลัยการเมือง การปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พบว่า ประชาชน 80.67% สนับสนุนให้เปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย และ36.38% สนับสนุนให้มีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย โดย 56.13% เห็นว่า กทม.และจังหวัดอีอีซีเป็นพื้นที่เหมาะสมที่สุดสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ในส่วนบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย กมธ.เสนอให้มีการพนันทั้งในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ ในรูปแบบการพนันออนไลน์เสนอให้มีการพนันกีฬาออนไลน์ 8 รูปแบบ ได้แก่ 1. กาสิโนออนไลน์ที่เป็นเกมพนันรูปแบบต่างๆ 2. การพนันที่ใช้การขึ้นลงของตลาดหุ้น สกุลเงิน 3. พนันกีฬาออนไลน์ เช่น กีฬาสากล กีฬาพื้นบ้าน แข่งม้า 4. การพนันอิงเหตุการณ์จริง เช่น ผลการเลือกตั้ง 5. บิงโกออนไลน์ 6. การเสี่ยงโชคออนไลน์ ผลการออกสลากกินแบ่งทั้งไทยและต่างประเทศ 7. เว็บไซต์เกมที่ต้องใช้ทักษะ เช่น เกมต่อสู้ออนไลน์ E-Sport 8. เว็บไซต์ เพื่อการฝึกฝน เช่น เกมบาคาร่า เกมม้าแข่ง ที่ใช้เหรียญของเกม (Token) แทงพนัน อาจต้องเติมเงินหรือให้ฟรี เมื่อมีความชำนาญจึงไปเล่นกาสิโนออนไลน์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวทางการจัดตั้งกาสิโนถูกกฎหมายนั้น กมธ.เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำร่างพ.ร.บ.อนุญาตให้การพนัน ออนไลน์ หรือธุรกิจ Gaming ดำเนินการได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 บังคับใช้ครอบคลุมถึงการควบคุมพนันออนไลน์ และวางบทกำหนดโทษ ที่เหมาะสม ตลอดจนกำหนดอัตราการจัดเก็บรายได้และภาษี ส่วนเงื่อนไขการเข้าไปใช้บริการกาสิโนถูกกฎหมายนั้น จะเปิดให้ทั้งชาวต่างประเทศและคนไทยเข้าใช้บริการ แต่ถ้าเป็นคนไทยต้องแสดงบัตรประชาชน มีอายุ 21 ปีขึ้นไป ต้องแสดงสถานะการเงินย้อนหลัง 6 เดือน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท และจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าไปใช้บริการ ตลอดจนต้องนำเงินที่เล่นได้จากกาสิโนถูกกฎหมายไปคำนวณเป็นรายได้ เพื่อยื่นเสียภาษีประจำปีด้วย
ด้าน นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร กล่าวว่า ในวันที่ 12 ม.ค. สภาจะพิจารณารายงานการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ตามที่กมธ.เสนอให้ตั้งกาสิโนถูกกฎหมายในรูปแบบ Entertainment Complex ควรสร้างให้ใหญ่เทียบเท่าสิงคโปร์ หารายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ มีแนวทางควบคุมคนเข้าไปเล่นเข้มงวด โดยเฉพาะคนไทย ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ต้องมีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท รวมถึงมีกองทุนเยียวยากรณีคนเสพติดการพนันจนครอบครัวเดือดร้อน