4 เม.ย.2565 – ที่ สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.1 ในฐานะโฆษกคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงษ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดสามารถดำเนินคดี 1.นายตนุภัทธ เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ ถูกแจ้งข้อตามมาตรา 291 ประมาทเป็นให้ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและ พ.ร.บ.การเดินเรือ และมาตรา 172 ให้การเท็จ และ พ.ร.บ.ความสะอาด 2.นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต มาตรา 291 ประมาทเป็นให้ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและ พ.ร.บ.การเดินเรือ และมาตรา 172 ให้การเท็จ และ พ.ร.บ.ความสะอาด 3.นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ มาตรา 184 ทำลายหลักฐาน มาตรา 119 พ.ร.บ.การเดินเรือ 3. น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก มาตรา 172 ให้การเท็จ ส่วนนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ศาลอนุมัติหมายจับไปแล้วเมื่อวาน ถูกแจ้งข้อหามาตรา 291 ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
การแจ้งข้อหาแต่ละคนแล้วแต่คำพยานคำให้การและหลักฐานประกอบแล้วแต่กรณี ส่วนผู้ที่เป็นกุนซือในคดีนี้ยืนยันว่ามีแต่ไม่ใช่ทนายตั้มแน่นอน เบื้องต้นพบว่ามี 1 คน ที่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ข้อหามาตรา 184 เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดและข้อหามาตรา 171 ,182 สอดรับกันไปภายใน 1-2 วันนี้จะไปขออนุมัติหมายจับจากศาล แต่จะเป็นใครไม่สามารถตอบ ถ้าศาลไม่ออกหมายจับก็จะออกหมายเรียกแทน กุนซือมีความเกี่ยวข้องทั้ง 5 คน บนเรือมีการสื่อสารพูดคุย การพูดคุยลักษณะที่เป็นความเห็น คำแนะนำคดีเกิดก่อน คดีเกิดหลัง การให้ความช่วยเหลือมันเป็นสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับรูปคดีทั้งหมด สถานการณ์นี้มันอยู่ในพยานหลักฐานไม่ว่าจะเป็นหลักฐานพยานบุคลลและพยานทางอิเล็คทรอนิคที่ได้มา คดีไม่เร็วและช้าเพราะต้องมีการตรวจสอบและยืนยันว่าเกี่ยวข้องถึงจะแจ้งข้อหา
พล.ต.ต.อุดร เผยอีกว่า ยืนยันว่าการดำเนินคดีกุนซือไม่ได้มีการเบี่ยงเบนประเด็น เพราะคดีนี้ประชาชนสนใจไม่มีใครกล้าเบี่ยงเบนประเด็นแน่นอน พนักงานสืบเสาระวังเรื่องพวกนี้มาก คดีนี้ทำไปหมดแล้วเหลือเพียงผู้ต้องหาคนสุดท้ายที่จะไปขออนุมัติหมายจับ ถ้าเขามาคดีนี้ก็เป็นไปตามไทไลน์ที่เรากำหนดไว้ตามระยะเวลา 2 เดือน ส่วนผู้ต้องหาที่ที่เข้าพบพนักงานสอบสวนทุกคนให้การปฏิเสธ เขาจะให้การอย่างไรก็ได้ เราฐานะพนักงานสอบสวนและสืบสวนมีหน้าที่รวบรวมให้ชัดเจนที่สุดไปสู่อัยการและศาลต่อไป
ทุกอย่างอยู่ที่คำให้การ เมื่อให้การเซ้นต์คำรับรองในคำให้การถือเป็นพยานหลักฐานนำไปสุ๋ชั้นอัยการ ศาล เป็นตัววัดเจตนา ถ้าให้การเท็จวันหน้ามันก็จะให้การเท็จไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะไปจบที่ศาล สังคมอย่าพึ่งด่วนสรุปจบไม่เป็นธรรมหรือไม่สวยหรูหรือมีการเกี๊ยเซี๊ยะกัน ส่วนคำให้การของทนายตั้ม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำให้การที่เขาพูด กล่าวร้ายหรือกล่าวเท็จให้พนักงานสอบสวนสืบสวนไม่ได้กระทบกับตำรวจ
“คดีนี้ข้อเท็จจริงมันอยู่ที่ 5 คนบนเรือ ถ้าให้การไม่ตรงกันคือสิ่งที่อันตรายที่สุด ถ้าให้การตรงกันแต่ต้นมันก็จบตั้งแต่ต้น ที่มันยืดยาวมาขนาดนี้ถ้าคดีนี้มีการให้การช่วยเหลือ ยุยง ไว้วานให้การะทำความผิด มันทำให้คดียากขึ้นไปเรื่อยๆ ทุกคนต้องถอดบทเรียน ถ้ามีการกระทำความมีการปกป้องและช่วยเหลือ หรือถ้าทำผิดยอมรับผิดขอโทษเชื่อว่าสังคมอยู่ได้ การตายของแตงโม ยุติอย่างเป็นธรรมหรือไม่นี้คือคำถามจากสังคมต้องการ เชื่อว่าพนักงานสอบสวนชุดนี้ทำอย่างเต็มที่ไม่มีเกียจคร้าน สินบน รางวัลน้ำใจ หรือช่วยเหลือใครบางคนไม่มีเด็ดขาด” โฆษกคดีแตงโม กล่าว