เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการ กสทช. ถึงกรณีที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล อภิปรายการดำเนินงานพบว่า เดินทางไปต่างประเทศแล้วกว่า 120 วัน และส่วนมากเป็นประเทศสหรัฐ อีกทั้งระบุถึงการเปิดคลินิกในต่างประเทศ นั้น
นายสรณ กล่าวว่า จากการชี้แจงในสภาฯ โดยชี้แจงว่าถ้าไม่นับรวมการอบรมที่สหรัฐอเมริกาในวิชาชีพตั้งแต่ปี ค.ศ.1984-1993 (พ.ศ. 2527-2536) ซึ่งตนไม่เคยประกอบวิชาชีพเวชกรรมนอกประเทศไทย และไม่เคยมีคลินิกส่วนตัวทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ สิ่งที่ปรากฏในสื่ออาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด
เนื่องจากในอดีตเคยเดินทางไปเรียนที่สหรัฐฯ และต้องบันทึกข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน เพื่อจะได้ใบประกอบวิชาชีพการแพทย์ (ไลเซนส์) ดังนั้น จึงมีข้อมูลส่วนตัวระบุไว้ว่ามีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมไว้ในระบบของประเทศดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันยืนยันว่า ไม่มีการต่อไลเซนส์ เพื่อประกอบวิชาชีพแล้ว
นายสรณ กล่าวต่อว่า อีกทั้งก่อนจะมารับตำแหน่งประธาน กสทช. ดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ในคณะแพทยศาสตร์ของโรงพยาบาลรามาธิบดี ของมหาวิทยาลัยมหิดล ในปี 2536 ถึงเกษียณอายุก่อนจะมาเป็นประธาน กสทช. ดังนั้น ทำงานเป็นข้าราชการ จึงไม่สามารถเปิดคลินิกส่วนตัวในต่างประเทศได้
“กำลังคิดอยู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่สร้างข้อมูลบิดเบือน และถูกกล่าวหา เพราะเรื่องร้ายแรงไปเร็ว ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งส.ส.ผู้ที่อภิปรายนั้น มีเอกสิทธิ์ หรือหน้าที่หรือไม่ ที่นำเรื่องไม่จริงมาบอก มาพูด จึงอยากฝากสื่อมวลชนว่าไม่เข้าใจเจตนาถึงตกเป็นเป้าหมาย และอันนี้มองว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะทุกอย่างมีการเมืองแฝงอยู่” นายสรณ กล่าว
นายสรณ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในวันนี้ (4 กันยายน) เริ่มการประชุมเมื่อเวลา 09.40 น. และจบการประชุมเวลา 10.20 น. ซึ่งการประชุมในวาระดังกล่าว ไม่สามารถเปิดการประชุมได้ เนื่องจากการประชุมไม่ครบองค์ประชุม 7 ท่าน โดยที่คณะกรรมการ กสทช.เข้าร่วมประชุมเพียง 3 ท่าน และอีก 4 ท่าน ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมตามที่ได้ส่งหนังสือแจ้งไว้แล้ว
ทั้งนี้ การประชุมครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 21 ก.ย. ณ จังหวัดนครพนม เป็นการสัญจรในภูมิภาค และการประชุมร่วมกับกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ซึ่งแจ้งวาระการประชุมในวันดังกล่าวให้คณะกรรมการทุกท่านรับทราบไปเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา
“ตามรายละเอียดบังคับการประชุม กสทช. ถ้าองค์ประชุมไม่ครบภายใน 30 นาที หลังจากเวลาที่นัดประชุมที่ 09.30 น. ตามระเบียบให้งดการประชุม และจะประชุมในวันที่ 21 ก.ย.ต่อไป ซึ่งมีวาระต้องพิจารณาอยู่ 40 กว่าวาระ ซึ่งหวังว่าจะพิจารณาได้โดยเร็วที่สุด” นายสรณ กล่าว
ประธานกสทช. กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ กสทช.โดยปกติจะประชุมทุกวันพุธที่ 6 ก.ย. แต่ครั้งนี้เลื่อนการประชุมเป็นวันจันทร์ (4 กันยายน) เนื่องจากประธาน กสทช.ทำหนังสือแจ้งประชุมบอร์ด กสทช.ล่วงหน้าไป 7 วันว่าในวันที่ 6 ก.ย. ประธาน กสทช. ต้องเดินทางไปประชุมในงาน Global Spectrum Management Forum 2023 ที่ประเทศเกาหลี ระหว่างวันที่ 6-8 ก.ย.66 จึงเลื่อนการประชุมมาในวันนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการประชุมครั้งนี้เป็นวันที่ตรงกับคณะกรรมการ กสทช.ท่านอื่นติดภารกิจ จึงไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้
นอกจากนี้ ช่วงเริ่มการประชุมประธาน กสทช.พูดคุยเกี่ยวกับการประชุมในอนาคต อาจทำอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะในบางวาระที่สามารถเปิดเผยได้ หรือเชิญผู้เข้าร่วมประชุมอื่นๆ และสื่อมวลชนเข้าร่วมได้ โดยเฉพาะวาระเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคหรือวาระที่เกี่ยวกับสังคมโดยตรง เพื่อให้สาธารณะรับทราบว่าคณะกรรมการ กสทช. มีการพิจารณาอย่างไร
“ตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง 1 ปี 4 เดือน นี่เป็นการประชุมบอร์ดในวาระนี้เป็นการล่มครั้งแรก และทุกอย่างต้องมีครั้งแรก สำหรับภาพลักษณ์บอร์ดจะเป็นอย่างที่เป็น และจะดีขึ้นเรื่อยๆ” นายสรณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะกรรมการ กสทช.ที่เข้าร่วมการประชุมในวันนี้มี 3 ท่าน คือนายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กสทช. ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย
ขณะที่คณะกรรมการ 4 ท่าน ไม่เข้าร่วมประชุม ดังนี้ นายศุภัช ศุภชลาศัย กรรมการ กสทช. ด้านเศรษฐศาสตร์ น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรคมนาคม และ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช.ด้านกิจการกระจายเสียง