19 ม.ค.2565 – รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า
หลังจากที่ทราบผลการเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพรและสงขลา ปฏิกิริยาของผู้สมัครของจังหวัดชุมพรจากพรรคก้าวไกลซึ่งได้คะแนนเพียงหลักพันต่ำๆ ก็เป็นไปตามคาด คือแทนที่จะมองที่ตัวเอง กลับไปต่อว่าคนใต้ที่ไม่เลือกตัวเอง ส่วนกลุ่ม 3 นิ้วต่างก็พากันประณามคนใต้ที่ไม่เลือกคนของพวกตัวเองว่าโง่ ลองดูตัวอย่าง comments ของเพจๆหนึ่งของสำนักข่าวหนึ่งฝ่าย 3 นิ้วต่อผลการเลือกตั้งซ่อม
“ยอมใจความดักดาน”
“ใช้ชีวิตโดยไร้สมอง น่าสงสารพวกเขา แต่สงสารพวกเรามากกว่า ซวยทั้งประเทศ ไอ้พวกเวร”
“ยอมรับเลย ความโง่เนี่ย”
ที่จริงแล้วที่พรรคก้าวไกลแพ้ไม่ใช่เพราะคนลงคะแนนโง่ แต่ในจังหวัดชุมพร ใครจะมาสู้บารมีของ “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส บารมีของคุณถาวร เสนเนียมที่สงขลา ก็ยังมีไม่น้อย พรรคพลังประชารัฐที่ว่ามีความพร้อมเต็มที่ก็ยังแพ้ แต่อีกสาเหตุหนึ่งหลายคนเห็นว่า มีส่วนทำให้พรรคพลังประชารัฐแพ้ทั้ง 2 แห่งด้วย ก็คือการปราศัยของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่านั่นเอง
อีกอย่างที่พรรคก้าวไกลแพ้ และไม่เพียงแพ้ แต่แพ้อย่างยับเยิน ได้คะแนนเสียงน้อยกว่าเดิมกว่า 60% อาจเป็นเพราะเกณฑ์การคัดเลือกผู้สมัครของพรรคก้าวไกลดูเหมือนจะเอาคุณสมบัติการไม่ต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันดับ 1 คุณสมบัติอื่นๆล้วนเป็นรอง ดังนั้นพรรคก้าวไกลไม่ใช่จะแพ้แต่เฉพาะที่ภาคใต้ ไปลงสมัครที่ ส.ส.เขตที่ไหนก็จะแพ้ ไม่เชื่อคอยดู
การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ที่จังหวัดชุมพรและสงขลา ยังเป็นสิ่งบอกเหตุว่า ในอนาคตอันไม่ไกล พรรคพลังประชารัฐ แม้ไม่ถึงกับแตก แต่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีคนเก่าออก คนใหม่เข้าเป็นจำนวนมาก มีความเป็นไปได้สูงว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งหน้า และมีความเป็นได้สูงเช่นกันว่า พลเอก ประยุทธ์ จะยังไม่วางมือทางการเมือง แต่จะออกไปตั้งพรรคใหม่ หรือไปร่วมกับพรรคใดพรรคหนึ่งที่ตั้งขึ้นใหม่
คำถามอยู่ที่ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยังคงอยู่จนการเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC เสร็จสิ้นในปลายปีนี้หรือไม่ หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก่อน เป็นสิ่งที่จะต้องคอยดูต่อไป แต่ที่คิดว่าไม่เป็นคำถามอีกต่อไปก็คือ ความสัมพันธ์และความรักระหว่างพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชายังคงแนบแน่นเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะพฤติกรรมบ่งบอกยิ่งกว่าคำพูด
จะพูดยืนยันว่ายังรักกันอย่างไร ก็ไม่มีใครเชื่อแล้วครับ