2 มิ.ย.2565 – เวลา 14.00 น. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า กระทรวงกลาโหม เสนอของบ 197,293 ล้านบาท และเมื่ออ่านรายละเอียดในการใช้บอกได้ 3คำ คือไม่คุ้มค่า ไม่ตอบโจทย์ ไม่โปร่งใส แม้งบภาพรวมการจัดซื้ออาวุธลดลง แต่งบบุคลากร จำพวกเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง สวัสดิการต่างๆ เพิ่มจาก 45% เป็น54% โดยเฉพาะกองทัพบกเพิ่มจาก 52% เป็น 62% รวมแล้วกว่า 19,000 ล้านบาท เพราะมีนายพลมากเกินไป โดยเฉพาะงบทหารเกณฑ์มีความจำเป็นอย่างไรถึงลดไม่ได้ เพื่อไปพัฒนางานด้านอื่นของกองทัพ
“ส่วนการจัดซื้ออาวุธของกองทัพก็ยังน่าสงสัย อย่างกองทัพเรือที่ขณะนี้มีปัญหาเรื่องเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พูดไม่ตรงกัน พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า ถ้าหาไม่ได้ก็ยกเลิกแล้วหาใหม่ เกรงว่า จะเสียค่าโง่หรือไม่ เพราะการซื้อเรือดำน้ำมีการก่อสร้างอื่นเกี่ยวข้องมากมายอีกเกือบหมื่นล้านบาท อาทิ เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก ท่าจอดเรือดำน้ำ โรงซ่อมบำรุง ทุกอย่างดีไซน์มาเฉพาะรุ่นที่จะจัดซื้อ ไม่ใช่จะไปใช้เครื่องยนต์อื่นแล้วจะเอามาใช้กับการก่อสร้างอื่นๆได้ และเริ่มเซ็นสัญญาจ่ายเงินให้เอกชนไปบางส่วนแล้ว ถ้าเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ เงินที่ลงทุนไป 10,000 กว่าล้าน จะถือเป็นค่าโง่หรือไม่” นายพิจารณ์ กล่าว
นายพิจารณ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันยังมีงบขุดบ่อบาดาลของกองบัญชาการกองทัพไทยมากถึง 44% ของงบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ถามว่าการขุดบ่อบาดาลเป็นหน้าที่หลักของกองทัพหรือไม่ ไม่รู้มีไว้เพื่อสร้างบุญคุณให้ประชาชนหรือไม่ ทำไมไม่กระจายงบนี้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินการแทน
นอกจากนี้งบที่น่าสงสัยอย่างค่าใช้จ่ายสนับสนุน ส่งกำลังบำรุง ซ่อมบำรุง และผลิตเพื่อแจกจ่าย ที่มีอยู่ในทุกหน่วยงานของกองทัพ เขียนรายละเอียดของบแค่บรรทัดเดียว แต่ของบ 6 พันล้านบาท ไม่บอกรายละเอียดอะไร ความโปร่งใสต้องมี เช่นเดียวกับเงินนอกงบประมาณกองทัพที่ไม่เคยเปิดเผยมีรายได้เท่าใด ทั้งโรงแรม สนามกอล์ฟ ปั้มน้ำมัน สนามมวย รายได้เหล่านี้ไปอยู่ที่ใด