สามีพาภรรยาท้อง 3 เดือน ไปกรีดยางรุ่งเช้า เจอช้างป่าพากันวิ่งหนีรอบเนินดิน แต่ผัวเคราะห์ร้ายวิ่งสะดุดรากไม้จนล้ม ถูกช้างเตะทำร้าย เมียเข้าช่วยถูกช้างเตะเฉียดใบหน้าล้ม นอนร้องขอชีวิต จนช้างผละหนี เชื่อเพราะลูกในท้องช่วยรอดทั้งคู่นายปฏิณญา
พานิชอัตรา นอภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี นายทนง เมธาวรากุล นายกเทศบาลตำบลพวา พร้อม ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปเยี่ยมนายวุฒิกรณ์ น่านโพธิ์ศรี อายุ 30 ปี และ น.ส ปริยานุช พ่อกว้าง อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา ชาว จ.นครพนม ที่มารับจ้างกรีดยางพารา ในพื้นที่ ม.6 ต.พวา แล้วถูกช้างป่าไล่เข้าทำร้ายบาดเจ็บ พร้อมทั้งได้มอบกระเช้า และเงินสดจำนวนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญและกำลังใจนายวุฒิกรณ์ ผู้เคราะห์ร้าย เผยว่า ช่วงตี 5 คืนวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและภรรยา ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน พากันออกไปกรีดยางพาราของนายจ้าง ได้มีช้างป่าตัวสูงใหญ่ ไม่ทราบเพศ เดินเข้ามาหาลักษณะไม่เป็นมิตร ตนจึงตะโกนเรียกภรรยาให้หนีเอาตัวรอด แต่พูดยังไม่ขาดคำ ช้างได้วิ่งไล่ตนและภรรยา พอดีตนเหลือบเห็นเนินดินพอจะวิ่งหลบหวังความปลอดภัยได้ จึงพาภรรยาวิ่งวนเพื่อหนีตายอยู่หลายรอบ แต่ช้างยังคงวิ่งตามอย่างไม่ลดละ จึงตัดสินใจวิ่งหนีออกจากเนินดิน เพื่อให้ช้างวิ่งตามตนเพียงคนเดียว เพราะกลัวช้างจะทำร้ายภรรยาที่กำลังตั้งท้องจากนั้นช้างได้หันวิ่งไล่ตามตน แต่โชคร้ายเท้าได้ไปสะดุดกับรากยางพาราทำให้ล้มลง จังหวะนั้นช้างป่าตามมาทันใช้เท้าเตะเข้าตามลำตัว และขาหลายครั้ง จนล้มลุกคลุกคลาน คิดว่าไม่รอดแน่ขณะเดียวกัน น.ส.ปริยานุช เผยว่า
เมื่อเห็นช้างกำลังทำร้ายสามี ตนจึงวิ่งเข้าไปจะเข้าช่วยเหลือ พร้อมตะโกนร้องขอชีวิต จังหวะเดียวกันช้างได้ยกเท้าเตะเฉียดใบหน้าตน 1 ครั้ง ก่อนเดินผละออกไป และหยุดยืนแล้วหันมามองสักพักจึงหันหลังเดินเข้าป่าไป อาจเป็นเพราะบุญบารมีลูกที่อยู่ในท้องช่วยไม่ให้ช้างทำร้ายตนและสามี ทำให้รอดชีวิตมาได้ หลังตั้งสติได้จึงพากันประคองร่างกลับไปที่พักห่างจากจุดเกิดเหตุราว 400 เมตร ให้พ่อสามีพาไปส่ง รพ.แก่งหางแมวเบื้องต้นพบว่าบริเวณลำตัวมีร่องรอยฟกช้ำหลายแห่ง กระดูกไม่หัก หลังแพทย์ตรวจแล้วยืนยันว่า ทั้งคู่ไม่เป็นอันตรายจึงให้กลับมารักษาตัวต่อที่บ้านพักดังกล่าว
cr:link สาระ
สำนักข่าววิหคนิวส์