วันที่ 30 ก.ค. 2560 20:19 ไทยรัฐออน์ไลน์:ขบวนกลุ่มค้าไม้ขู่ย้ายทหารออกนอกพื้นที่ ผบ.ฉก.ทพ.36 โต้หากจะย้ายลูกน้องให้ย้ายผู้การทหารพรานคนนี้ออกก่อน หลังจากนี้จะสั่งการเดินหน้าอย่างหนัก เพื่อดำเนินคดีกับขบวนการค้าไม้ทุกราย เผยมีนักการเมืองท้องถิ่น เป็นนายทุนอยู่เบื้องหลัง…
เมื่อที่ 30 ก.ค. 60 พ.อ.ภาส วงศ์สารภี ผบ.ฉก.ทพ.36 ค่ายเทพสิงห์ อ.แม่สะเรียง เปิดเผยว่า จากการปิดล้อมตรวจค้นแผนยุทธการป้องกันและปราบปราม การลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และแผนงานแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าสาละวิน
ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ค. 60 ที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้นำท้องถิ่น ทั้งนายก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บางคน จนกระทั่งมีนายก อบต.กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้เรียกชาวบ้านประชุมด่วนในวาระพิเศษ กรณีการจับกุมไม้ของเจ้าหน้าที่ทหาร โดยอ้างว่าทหารได้กระทำการเกินเหตุ ซึ่งได้ขอมติจากที่ประชุมยกมือให้ย้าย ร.อ.ชุมพล อินตา ผบ.ร้อย 3605 พร้อมหน่วยทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ออกจากพื้นที่ อ.ขุนยวม หากผู้เข้าร่วมประชุมคนใดไม่ยกมือถือว่าเป็นฝ่ายทหาร
ขณะที่ ร.อ.ชุมพล อินตา ผบ.ร้อย ทพ.3605 รับผิดขอบพื้นที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ในส่วนของ อ.ขุนยวม นั้น สายข่าวรายงานมาว่าเป้าหมาย ขบวนการค้าไม้มากที่สุดมีอยู่ในพื้นที่ ต.แม่กี๊ กำลังผสมได้ร่วมกันตรวจค้นหลายหมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านร่มเย็น บ้านห้วยปูเลา บ้านเปียหลวง สามารถตรวจยึดไม้ได้จำนวนมาก ทั้งไม้สักหน้ากว้างและขนาดใหญ่ พร้อมเลื่อยโซ่ยนต์จำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าของไม้ส่วนใหญ่เป็นอดีต ผู้ใหญ่บ้านและสมาชิก อบต. โดยได้หลบหนีออกไปจากหมู่บ้านก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึง ทั้งนี้ หน่วยทหารมีรายชื่อเจ้าของบ้านผู้กระทำความผิดที่ซุกซ่อนไม้ไว้ในบริเวณบ้านทุกคนแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนเรียกมารับข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดี
ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายเภอขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารถือว่าดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอน หากแกนนำท้องถิ่นออกมาต่อต้านหรือแสดงออกเชิงขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ได้มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานไปร่วมด้วยทุกครั้งและมีการลงบันทึกเป็นลายอักษรทุกหน่วยรับรู้ด้วยกัน เมื่อมีแกนนำออกมาปลุกระดมชาวบ้านให้ย้ายเจ้าหน้าทหารออกจากพื้นที่นั้นตนไม่เห็นด้วย ควรจะมาคุยกันและหาทางออกด้วยกันคิดว่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และทางอำเภอจะได้เชิญแกนนำ มาพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง เพราะการอยู่ด้วยกันในกลุ่มมากต้องอาศัยกฎกติกา หรือกฎหมายบังคับใช้ มิเช่นนั้นใครจะคิดจะทำอะไรก็ทำตามใจชอบ การปกครองก็อยู่ด้วยกันลำบาก ซึ่งถ้าออกมาขับไล่หรือปลุกปั่นมวลชนผู้ที่เดือดร้อนก็คือชาวบ้าน
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news