เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2563 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นหลังจากที่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติต่ออายุการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือนว่า สถานการณ์ในประเทศขณะนี้ไม่มีเหตุผลใดที่รัฐบาลจะประกาศใช้อำนาจต่อไป สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ ยุติสถานการณ์ฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดเพื่อให้บรรยากาศกลับคืนสู่สภาวะปกติ และฟื้นฟูความเสียหายโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจของประชาชน ในอนาคตหากมีการระบาดระลอก 2 มั่นใจว่าด้วยศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทย และความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตัวเอง และผู้อื่นจะสามารถรับมือต่อสถานการณ์ในอนาคตได้
“สองเดือนที่ผ่านมาไม่ได้สูญเปล่าในการสร้างความตระหนักรู้ของประชาชน จึงจะต้องออกคำสั่งวางกรอบให้เดินกันตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าการใส่แมส การพกเจลล้างมือ กลายเป็นพฤติกรรมปกติไปแล้ว ประชาชนตระหนักดีถึงปัญหา และสามารถปรับตัวกับวิถีใหม่ เพื่อไม่ให้รับหรือกระจายเชื้อได้เป็นอย่างดี มีการปรับสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจ ดังนั้น สถานการณ์ขณะนี้จึงไม่เหลือเหตุผลใดในการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก อนาคตของประเทศไทยควรถูกกำหนดขึ้นจากประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ประโยชน์เพื่อความมั่นคงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม”
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า หมดเวลาแล้วกับการใช้อำนาจโดยไม่รับผิดชอบต่อประชาชน พ.ร.ก.ฉุกเฉินควรหมดอายุไปได้แล้วนับแต่นาทีนี้ สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ มุ่งเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาล ไม่ว่าประชาชนที่ตกงาน ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เป้าหมายการบริหารราชการแผ่นดินในฐานะที่เป็นรัฐบาลก็คือ การทำให้ประชาชนหลายล้านคนกลับมามีงานทำ มีรายได้ และฟื้นฟูผู้ประกอบการรายย่อย วางแผนเปิดโรงเรียนตามปกติ และมีมาตรการที่ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ ไม่ใช่การใช้อำนาจออกคำสั่งแล้วจบไป แต่ไม่คำนึงถึงประชาชนเช่นนี้