03 ส.ค.2565 – นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 แถลงข่าวกรณีจะมีการลงมติในการอุทธรณ์ต่างๆ ในคณะ กมธ.ว่า วันนี้ที่ห้อง กมธ.งบฯ ชุดใหญ่ จะมีการลงมติในการอุทธรณ์ต่างๆ ซึ่งมีรายการที่เป็นพระเอกของงบประมาณปี 2566 คือ เครื่องบินรบ F-35A จำนวน 2 ลำ ของกองทัพอากาศ (ทอ.) ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการงบ ครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียนใน กมธ. วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ได้มีมติให้มีการปรับลดเครื่องบินรบ 2 ลำออกไปก่อน ซึ่ง ทอ.ได้ตั้งงบไว้ทั้งหมด 738 ล้านบาท แต่เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ทอ.ได้มีหนังสือมาอุทธรณ์คืนจำนวนงบครึ่งหนึ่งของงบประมาณทั้งหมดคือ 370 ล้านบาท ซึ่งอนุ กมธ.ได้มีการชี้แจงไปแล้วว่า สภาคองเกรสต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 เดือนในการอนุมัติว่าขายจะให้หรือไม่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียวไปกอดไว้
“คุณก็ดำเนินการขอราคา ขอหนังสืออนุมัติจากสภาคองเกรสให้เขาดำเนินการได้เลย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมีงบประมาณ คุณก็ดำเนินการได้ ผมขอเรียนว่าถ้าได้ซื้อ 2 ลำนี้แล้ว ก็ต้องซื้อต่อเนื่องทั้งหมด 12 ลำ เป็นเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นภาระให้กับรัฐบาลในสมัยหน้าต่อไปอีก 10 ปี และสิ่งที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ ระบุว่า เป็นวงเงินของกองทัพอากาศ ผมต้องขอเรียนว่า ไม่ใช้วงเงินของกองทักอากาศ แต่เป็นเงินภาษีของประชาชน และผมขอถามกลับไปว่ามีความจำเป็นอะไร ในภาวะที่ประชาชนกำลังลำบาก โควิดระลอก 6 กำลังระบาด ทุกอย่างแพง ทำไมไม่เอาเงินตรงนี้ไปช่วยเหลือประชาชนก่อน และเราก็ไม่ได้มีภัยคุกคามจากเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่จำเป็นต้องซื้อในขณะนี้ “ นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ลุงที่อยู่ในป่าล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดให้ยกมือ เพื่อโหวตผ่านในงบของเครื่องบินรบดังกล่าว แต่ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลได้ปรึกษากันใน กมธ.งบฯ ว่า พวกเราจะคัดค้านในการโหวตงบประมาณในครั้งนี้