13 มี.ค.64 – นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษาเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา ทั้งด้านการสร้างการมีส่วนร่วมของเด็ก ในสถานศึกษา การเปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็น การป้องกันการรังแกกันในโรงเรียน การดูแลพัฒนาเด็กที่มีความต้องการพิเศษ การละเมิดเด็ก และการการะทำความรุนแรง ตลอดจนการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กนักเรียนของบุคลากรในสถานศึกษาที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่ากระทรวงศึกษาฯ จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้าใจและตระหนักในเรื่องสิทธิเด็ก ความเสมอภาคระหว่างเพศ การเคารพในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย ดังนั้นการเข้ามาของรัฐมนตรี ไม่ใช้เห็นแก่ประโยชน์ด้านการเมือง พวกพ้อง หรือตอบโจทย์ทางการเมือง แต่ต้องเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ กว้างไกล เห็นและมุ่งเน้นที่ประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ
นางฐาณิชชา กล่าวว่า คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา และเครือข่ายผู้ปกครอง ขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชารัฐ ขอให้บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ควรมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้1. มีวิสัยทัศน์ไปในอนาคต (ที่ไม่เห็นแต่ประโยชน์ทางการเมือง) โดยกำหนดภาพพึงประสงค์ว่าการศึกษาไทยควรไปในทิศทางใด แม้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็ยังมีกลไกขับเคลื่อนการศึกษาจนไปถึงวิสัยทัศน์ได้ 2. สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมพัฒนา เด็ก ไม่ใช่แค่มุ้งเน้นเรื่องการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีมาตรการ ปกป้องคุ้มครองเด็ก อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม และมีความสามารถในการบริหารแก้ไขความขัดแย้ง ความเห็นต่าง มีความอดทน มีความยุติธรรม 3.สามารถสร้างภาคีเครือข่าย และทำงานกับภาคีเครือข่าย ทั้งในกระทรวงฯและภายนอกกระทรวงฯ หรือองค์กรพัฒนาเอกชน หรือชุมขน เห็นความสำคัญในการทำงานเป็นเครือข่ายอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การมาลงนาม ตั้งคณะทำงานเท่านั้น แต่ต้องทำเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้จริง 4. โปรงใส ตรวจสอบได้ ซื่อสัตย์ สุจริต เปิดกว้างต่อการตรวจสอบ ในประเด็นต่างๆทั้งในด้านการจัดการการศึกษา งบประมาณ บุคลากร เพื่อความโปร่งใสและความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน และเปิดพื้นที่รับฟังปัญหาของเด็กอย่างจริงจัง และจริงใจในการร่วมแก้ไขปัญหาทุกกรณี 5. มุ่งมั่นที่จะป้องกันและแก้ไขการหาครูล่วงละเมิดทางเพศและการหาประโยชน์อื่นกับเด็กนักเรียน ตลอดจนการละเมิดสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นปัญหาที่สั่งสมมานานและทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ 6. ให้ความสำคัญกับเด็กทุกคนอย่างจริงจัง มุ่งมั่นและเข้าใจ แนวทางการพัฒนานักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ อย่างจริงจัง เท่าเทียม รวมทั้งมีรูปแบบ หรือคู่มือ หรือ การเรียนการสอนให้เด็กมีทักษะในการป้องกันตนเอง การขอความช่วยเหลือ และสนับสนุนให้เกิดกลไกการช่วยเหลือดูแลนักเรียนในโรงเรียนที่เป็นมิตรเพื่อช่วยเหลือเด็กอย่างทันท่วงทีและป้องกันการรังแกกันในโรงเรียน
“หากในอนาคต บุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงศึกษายังเห็นแก่ประโยชน์ทางการเมือง มีมุมมองและทัศนคติที่ไม่เข้าใจและไม่ตระหนักในสิทธิเด็ก ละเลย ไม่ปกป้องคุ้มครองเด็ก เพิกเฉยต่อการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก ไม่มีมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมและจริงจังในการลงโทษบุคลากรที่ละเมิดเด็ก คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา และเครือข่ายผู้ปกครอง จะร่วมกันจับตา ร่วมปกป้องคุ้มครองเด็ก ร่วมตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์การทำงาน ของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ อย่างจริงจัง และในทางกลับกันเครือข่ายฯพร้อมสนับสนุนหากมีการดำเนินงานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพก้าวหน้า แก้ปัญหาได้จริง เพื่อให้รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาพึงทำหน้าที่ของตนอย่างเหมาะสม” นางฐาณิชชา กล่าว