7 กรกฎาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ รัฐสภาฯโหวตเห็นชอบสูตรคำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 เป็นการถูกครอบงำ ใช้เสียงข้างมากเพื่อสืบทอดอำนาจ พร้อมมีสมาชิกพรรคออกมาเคลื่อนไหวผ่านโซเซียลไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ โดยนายเสกสกล ระบุว่า พรรคเพื่อไทยควรมีมารยาทยอมรับเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ โดยสมาชิกรัฐสภาฯทุกคนล้วนมีเหตุผลเป็นของตัวเองในการโหวต ทั้งนี้เมื่อโหวตแพ้ก็ไม่ควรที่จะออกมาโวยวายและกล่าวหาคนอื่นเช่นนี้
นายเสกสกล ยังระบุว่าและการที่หมอชลน่าน นำข่าวที่มาจากแหล่งสื่อต่างๆมาตัดสินว่านายกฯ สั่งการให้มีการโหวตหาร 500 นั้นการกล่าวหาเช่นนี้ไม่ควรออกมาจากวุฒิภาวะของคนที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน เพราะแค่ฟังจากแหล่งข่าวเล่ามา แล้วมาปรักปรำนายกฯอย่างนี้ถือว่าขาดภาวะความเป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง ดังนั้นขออย่านำมาประเด็นนี้เพื่อหาความชอบธรรมให้กับฝ่ายตัวเองที่ผิดหวังจากการแพ้โหวต
” นายกฯให้สัมภาษณ์สื่อทุกครั้งเป็นเรื่องของสภาฯ สมาชิกรัฐสภามีวุฒิภาวะตัดสินใจเองได้ ไม่มีใครครอบงำหรือสั่งการ นพ.ชลน่านจะพูดอะไรกรุณาให้เกียรติสมาชิกสภา ทุกคนมี
เกียรติยศ มีศักดิศรีเท่ากันอย่าดูหมิ่นดูแคลนกันจะดีกว่าไหม
“ตนเองมองว่าข้อเท็จจริงที่พรรคเพื่อไทย ไม่พอใจถึงผลการโหวตนั้น เพราะว่าเป็นการดับฝันที่จะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์ไสด์เท่านั้นเองไม่มีเรื่องอื่น และหากไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลก็จะไม่สามารถพานายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับประเทศหรือฟอกความผิดได้ และอาจช้ำชอดใจ ที่มีสื่อบางสำนักออกมาพาดหัวว่า ดับฝันแลนด์สไลด์ เพื่อไทย กลายเป็น”เพื่อไทยแล่นไถล” ไปซะเช่นนั้น
อีกทั้งการไม่ยอมรับในเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ แล้วออกมาเคลื่อนไหว โวยวายกล่าวหาคนอื่น ถือเป็นเรื่องที่ไม่แตกต่างจากเผด็จการเช่นเดียวกัน ขออย่าทำตัวเป็นอันธพาลครองสภาฯ แพ้แล้วชวนตี ประชาชนเขาจะเกลียด กระแสพรรคจะยิ่งตกต่ำ “
“พรรคการเมืองที่ต้องเรียกว่าเป็น เผด็จการรัฐสภา ซึ่งในอดีตเคยมีผู้มีอำนาจเจ้าของคอกทั้งในประเทศและผู้มีบารมีนอกประเทศที่เรียกว่านายใหญ่ คอยสั่งการบังคับสส.ให้อยู่ประชุมถึงตีสี่ตีห้า อดหลับอดนอน เพื่อให้สส.ในคอกฝืนใจยกมือออกกฎหมาย พรบ.นิรโทษสุดซอย เจตนาจงใจเอานายทักษิณกลับบ้าน เพื่อล้างคดีโกงและให้พ้นมลทิน พฤติกรรมพรรคการเมืองเช่นนั้น มิใช่หรือ ที่จะต้องเรียกว่า เผด็จการรัฐสภา และนพ.ชลน่านก็เคยอยู่ในพรรคการเมืองนั้นถึงปัจจุบันจนได้โบนัสเป็นหัวหน้าพรรคมิใช่หรือ ทำไมขี้ลืมจังเลย” นายเสกสกล กล่าว