หน้าร้อนเมื่อไร สารพัดเคล็ดลับคลายร้อนเป็นต้องหยิบเอามาใช้กันทุกขนานเลยใช่ไหมคะ แม้ว่าจะเริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าเมืองไทยแทบจะร้อน 365 วันต่อปี มัวแต่จะขอพึ่งแอร์อย่างเดียวก็คงไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ งั้นเรามาดับกระหายคลายร้อนกันด้วยอาหารไทยๆ อย่าง “ข้าวแช่” ที่ทั้งอร่อย ทั้งมีประโยชน์กันดีกว่าค่ะ
ข้าวแช่ คืออะไร?
ที่เราบอกว่าข้าวแข่เป็นอาหารแบบไทยๆ คงจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะแต่เดิมแล้วข้าวแช่มีพื้นเพมาจากชาวมอญ ข้าวแช่ประกอบไปด้วยข้าวสุกที่ขัดเอาส่วนที่สุกๆ เมือกๆ ออกให้หมด ให้เหลือแต่ส่วนแข็งๆ (เพื่อที่เวลาใส่น้ำทาน น้ำจะได้ไม่ขุ่น) น้ำหอมๆ ที่ผ่านการอบควันเทียน และลอยดอกไม้เช่น มะลิ กระดังงาลนไฟ กุหลาบ หรือดอกชมนาด ทานกับเครื่องเคียงอีก 6 อย่าง
เครื่องเคียงของข้าวแช่
ข้าวแช่ที่ครบเครื่องจริงๆ ต้องมี 6 ชนิด
กะปิจากเคย แต่ถ้าไม่มีอนุโลมเป็นกะปิจากกุ้งได้ นำมาทำลูกกะปิ โขลกกับข่า ตะไคร้ กระชาย หัวหอม ปลาดุกย่าง น้ำตาล แล้วนำไปผัดจนน้ำตาลเหนียวจนปั้นได้ เมื่อปั้นเป็นลูกเสร็จ ก็นำไปชุบแป้งทอด
ปลาหวาน จากเมืองเพชรจะรสชาติอร่อย
พริกหยวก นำมายัดไส้หมู กระเทียม พริกไทย และรากผักชี
ไชโป๊
หัวหอมสอดไส้
หมูฝอย
ประโยชน์จากข้าวแช่
นอกจากน้ำเย็นๆ ในข้าวแช่หอมๆ จะทำให้เราคลายร้อนได้อย่างเพลิดเพลินแล้ว ส่วนประกอบอย่างกระชาย ข่า ตะไคร้ หัวหอม และไชโป๊ ยังช่วยย่อยอาหาร บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ปรับสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติ ลดอาการปากลอก ปากแห้ง ปากแตก รวมไปถึงอาการร้อนในได้อีกด้วย และแน่นอนว่าน้ำหอมๆ ของข้าวแช่ ยังช่วยให้เราผ่อนคลายจากความเครียดได้ดีอีกด้วย
ใครที่ยังไม่เคยทานข้าวแช่ ยังไม่สายที่จะลองทานนะคะ นอกจากจะเป็นอาหารที่ทั้งอร่อย ทั้งมีประโยชน์แล้ว ยังถือว่าเป็นการช่วยรักษาไว้ซึ่งอาหารไทยๆ ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ลิ้มลองกันต่อๆ ไปด้วยค่ะ
สำนักข่าว vihoknews