กองทัพแถลง ‘นตท.ภคพงศ์’ เสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันไม่ได้ถูกทำร้าย รอยฟกช้ำเกิดจากตกบันได
วันนี้( 15 ธ.ค.60) พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง การเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” ได้แถลงข่าวสรุปผลการสอบสวนฯการเสียชีวิตของน้องเมย ที่กองบัญชาการกองทัพไทย
โดยระบุว่า ในวันที่เสียชีวิต น้องเมยมีอาการเจ็บอก เกร็ง ชา หายใจแรงถี่ ทางแพทย์จึงได้ให้นำตัวเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อไปถึงจึงได้ทำการซีพีอาร์ พร้อมแจ้งครอบครัวของน้องเมย โดยระหว่างนั้นทางครอบครัวได้มีการร้องขอให้ซีพีอาร์จนกว่าจะไปถึงเป็นเวลา 4 ชม. ใช้เจ้าหน้าที่หมุนเวียนถึง 20 คน จึงได้ลงความเห็นว่าเสียชีวิต โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตลอดวันน้องเมยไม่ถูกผู้ใดทำร้ายร่างกายหรือสั่งลงโทษวินัย ยกเว้นช่วงที่เดินขึ้นตึกกองแพทย์ที่ล้มลงเพราะความเครียดสูงหลังคุยกับผู้ปกครองต่อหน้าพยานที่พบเห็นถึง 4 ราย
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการสอบสวนได้สอบผู้ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการลงโทษน้องเมย และในวันที่ 12 ต.ค. น้องมีการล้มลงจากบันไดด้วยตนเอง มีการนอนตะแคงซ้ายมือกุมหน้าอก ซึ่งจากการสอบถามพบว่ามีการจุกหน้าอก ซึ่งแพทย์ตรวจสอบไม่พบบาดแผล และทำการส่งรพ.โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และกลับเข้าโรงเรียนในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งจากพยานและคำให้การไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสั่งทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และจากการแพทย์พยาธิวิทยาพบเซลล์หัวใจผิดปกติ แพทย์สรุปว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
พร้อมกันนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ยังเปิดเผยภาพกล้องวงจรปิด พบว่ากรณีที่มีการชันสูตรพบการฟกช้ำ เกิดจากนักเรียนเสียหลักตกบันไดด้วยตนเอง สาเหตุเพราะความเร่งรีบ
อย่างไรก็ตามในวันที่ 18 ธ.ค.นี้จะมีเชิญครอบครัวเข้ามาฟังคำชี้แจงและตอบข้อสงสัยทุกอย่าง ส่วนการธำรงวินัยในการนำเข้าห้องเซาว์น่าโดยนักเรียนผู้บังคับบัญชานั้น ทางน้องเมยและเพื่อน 1 คน ได้มีการแจ้งว่าป่วย จึงนำตัวออกมา และคงไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต และที่มีข้อสงสัยเรื่องหลักสูตรการเรียนของโรงเรียนเตรียมทหารนั้น ขอยืนยันว่าเป็นหลักสูตรที่ได้มาตราฐาน แต่ก็จะมีการปรับปรุงเป็นระยะ เบื้องต้นจะต้องมีการเข้มงวดในการตรวจร่างกายก่อนเข้าเรียนมากขึ้น และขอยืนยันว่าระบบธำรงวินัยเป็นระบบที่ดี ซึ่งอาจต้องมีปรับปรุงท่าธำรงวินัย ไม่ให้ใช้ท่าธำรงวินัยที่ถูกห้าม แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมามีการฝ่าฝืนจากความคึกคะนอง ซึ่งหากพบจะถูกลงโทษโดยทันทีต่อไป
Cr. Tnn24
สำนักข่าววิหคนิวส์