ดร.สุกิจ พูลศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ได้โพสต์ระบุข้อความว่า..
นายกสภาทนายความ รับคำกล่าวหา ทนายธรรมราชผิดมรรยาททนายความ จากทิดไพวัลล์ กับพวก
การร้องเรียนกล่าวหาว่าทนายความทำผิดมรรยาท เป็นหน้าที่ ประธานมรรยาททนายความ ประธานมรรยาททนายความหายหัวไปไหน “ถ้าไม่ทำงานก็ลาออกไปเสีย
ดีกว่าโดนปลด
กระบวนการ ตามมาตรา 64 วรรคแรก ประกอบ ข้อบังคับ ว่าด้วยการพิจารณาคดีมรรยาทฯ ข้อ 14-17
หากมีการนำเสนอ ว่า มีการร้องเรียนกล่าวหาว่า ทนายประพฤติผิดมรรยาท และมีการรับ คำกล่าวหาดังกล่าว แล้ว
มีการเชิญนักข่าวมาทำข่าว โดย คณะ/หน่วยงาน ที่มีหรือไม่มีหน้าที่ โดยตรงย่อมเป็นการรับคำกล่าวหาด้วยหน่วยงาน จะต้องเป็นไปรษณี
นำไปเสนอมรรยาททนายความ
ถ้าบุคคลตามภาพทำผิดขั้นตอน ทนายธรรมราชอาจฟ้องนายกสภาทนายความกับคณะที่รับคำกล่าวหาที่เป็นข่าวได้
หาก ฝ่ายมรรยาท ไม่รับคำกล่าวหา อะไรจะเกิดขึ้น
มิโดนทนายธรรมราช ฟ้อง หมิ่นประมาท
ดอกหรือ
อีกประการ หากมีการ กล่าวความ หาเหตุกันว่า เป็นแบบหมิ่นประมาท ย่อมต้องผ่า กระบวนการทางอาญา มาก่อน
หาใช่ กล่าวอ้างกันเองว่า นี่คือหมิ่นประมาท หรือ สบประมาท หรือ ทำผิดกฎหมายอาญา ใดๆ เกิดขึ้นแล้ว
มิฉะนั้น การกล่าวหาว่าล่วงละเมิด ข้อบังคับมรรยาททนายความ
ที่มีข้อจำกัด ตามหมวด ต่างๆ ของข้อบังคับ ว่าด้วยมรรยาททนายความ อาจทำให้สังคมสับสนได้ ว่า เรื่องอะไร ๆ ก็ยื่นคำกล่าวหากันได้
การจะให้สังคมสงบ
กลับ เป็นว่า เปิดช่องร้องเรียนไม่จำกัดกรอบ และขอบตามสิทธิของผู้เสียหาย ย่อมไม่ชอบด้วย การใช้อำนาจและหน้าที่ ของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมตลอดถึงผู้เดือดร้อนเสียหาย