ผู้บริโภคเฮ! ครม. ไฟเขียว (ร่าง) กฎหมายให้ผู้ประกอบการ “รับผิดชอบสินค้าชำรุดบกพร่อง” แก่ผู้ชื้อภายใน 2 ปี นับแต่วันส่งมอบสินค้า
.
ที่ประชุม ครม. (22 พ.ย. 65) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า พ.ศ. ….
.
ร่างกฎหมายดังกล่าว เป็นการกำหนด “ความรับผิดของผู้ประกอบการธุรกิจ” ในความชำรุดบกพร่องของสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รวมถึงสินค้าอื่นที่อาจกำหนดตามพระราชกฤษฎีกา
.
โดยผู้ประกอบธุรกิจต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้าอันเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสม ภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันส่งมอบสินค้า ไม่ว่าผู้ประกอบธุรกิจจะรู้ถึงความชำรุดบกพร่องของสินค้าหรือไม่ก็ตาม
.
กรณีสินค้าชำรุดบกพร่องภายใน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบสินค้า ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าสินค้านั้น ชำรุดบกพร่องในเวลาส่งมอบสินค้า
.
กรณีผู้ประกอบธุรกิจเป็น “ผู้ติดตั้งหรือประกอบสินค้า” หรือกรณี “ผู้บริโภคประกอบสินค้า-ติดตั้งตามคู่มือ” ที่ผู้ประกอบธุรกิจจัดให้ แต่คู่มือนั้นกำหนดวิธีติดตั้งหรือประกอบสินค้า “ไม่ถูกต้องหรือครบถ้วน” ผู้บริโภคสามารถดำเนินการได้ ดังนี้
.
• เรียกให้ผู้ประกอบธุรกิจซ่อมแซมสินค้า
• เรียกให้ผู้ประกอบธุรกิจเปลี่ยนสินค้า
• ขอลดราคาสินค้า หรือเลิกสัญญา
.
ทั้งนี้ การใช้สิทธิดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิในการเรียกค่าเสียหายอื่นจากผู้ประกอบธุรกิจ และกรณีที่ “ทำข้อตกลงไว้ล่วงหน้า” ซึ่งแตกต่างจากที่ พ.ร.บ. นี้กำหนด และเป็นผลเสียต่อผู้บริโภคให้ถือว่าเป็นโมฆะ
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบธุรกิจจะได้รับการ “ยกเว้น” ไม่ต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องในกรณี ดังนี้
.
• ผู้บริโภค “รู้อยู่แล้ว” ในเวลาซื้อขายว่าสินค้านั้นมีความชำรุดบกพร่อง
• ผู้บริโภค “ดัดแปลงสินค้า” โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ประกอบธุรกิจจนเป็นเหตุให้เกิดความชำรุดบกพร่อง
• ผู้บริโภค “ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด” ที่จำเป็นและสมควรเพื่อการบำรุงรักษาสินค้าที่ระบุในคู่มือการใช้งาน
.
ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการเพิ่มความคุ้มครองสิทธิของ ปชช. ซึ่งเป็นผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการกระบวนการผลิตสินค้าหลายชนิด ทำให้สินค้ามีลักษณะหรือกลไกที่ซับซ้อน
.
เหตุดังกล่าวจึงส่งผลให้ผู้บริโภค “ไม่อาจพบเห็นความชำรุดบกพร่อง” ของสินค้าได้ในเวลาซื้อขายหรือส่งมอบ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อคุ้มครองสิทธิ ปชช. ที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบัน
.