ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบ ตามสหประชาชาติกรณีการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้ การทดลองขีปนาวุธข้ามทวีป และระเบิดไฮโดรเจน ทำการอายัดเงินทุน และการสกัดกั้นทางทะเล
Inn – พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณี คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แถลง มาตรการลงโทษเกาหลีเหนือ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้มีมติเห็นชอบตาม สหประชาชาติกรณีการคว่ำบาตร เกาหลีเหนือไปแล้ว 10 ฉบับ ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในครั้งนี้เป็นฉบับที่ 11 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2560 เพื่อเป็นการตอบโต้การประกาศความสำเร็จการ ทดลองระเบิดไฮโดรเจน เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 และการทดลองขีปนาวุธข้ามทวีป สาระสำคัญเป็นการอายัดเงินทุนและทรัพยากร
หรือองค์กรที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่กำหนดไว้ ต้องจัดหาจำหน่ายหรือถ่ายโอนสิ่งของ ได้แก่ น้ำมันดิบ /ปิโตรเลี่ยมกลั่น/อาหาร/ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร/เครื่องจักร /เครื่องใช้ไฟฟ้า /ดิน/หิน/แมกนีไซต์และแมกนีเซีย/ ไม้และเรือ รวมไปถึงห้ามเกาหลีเหนือจำหน่ายหรือโอนสิทธิ์ในการทำประมง
ในส่วนของมาตรการเกี่ยวกับการสกัดกั้นทางทะเลต่อเรือสินค้าของรัฐสมาชิก จะมีการ ยึด /ตรวจค้นและอายัด ท่าเรือและอาจยึดตรวจค้นและอายัดเรือใด ๆที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจหรืออยู่ในทะเลอาณาเขตของตน เส้นทางรัฐบาลไทยต้องรายงานการปฏิบัติตาม มาตรการลงโทษของสหประชาชาติภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับรองข้อมตินี้ โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ระบุว่าการดำเนินงานต่างๆนั้น ต้องสอดคล้องกับกฎหมายภายในประเทศ /พันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการเฝ้าระวังมากกว่าการป้องปราม
สำนักข่าววิหคนิวส์