โควิด-19 คร่าชีวิตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ไปแล้ว 32 ราย จากการเปิดเผยของรองประธานสมัชชาแห่งชาติ ถือเป็นสัดส่วนระดับสูง ในขณะที่ทั่วประเทศพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันราวๆ 31,000 คน และเสียชีวิต 780 คน
ฌอง มาร์ค คาบูนด์ รองประธานคนที่ 1 ของสมาชิกคนที่ 1 เผยแพร่ตัวเลขสุดช็อกในวิดีโอที่ส่งถึงบรรดาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (27 พ.ค.) จากนั้นเจ้าหน้าที่ของเขาได้โพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ในวันต่อมา โดยตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นราวๆ 5% ของจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดของประเทศ
“ตัวเลขอัปเดตล่าสุดในรายงานของรัฐบาล ยืนยันเคสผู้ติดเชื้อ 31,248 คน และเสียชีวิต 780 ราย ในนั้น 32 คนเป็นสมาชิกรัฐสภา” คาบูนด์กล่าว ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกมีประชากรราวๆ 80 ล้านคน
แม้มีมาตรการบังคับสมาชิกรัฐสภาให้สวมหน้ากากในห้องประชุมที่บ่อยครั้งโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน แต่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงแค่จำนวนเล็กน้อยที่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว และมักชอบจับกลุ่มคุยกันอย่างใกล้ชิด
ในเดือนธันวาคม สมาชิกรัฐสภาและผู้ใกล้ชิดเปิดศึกทะเลาะวิวาทระหว่างการประชุม ทั้งชกต่อยกันด้วยมือเปล่า ขว้างปาเก้าอี้และโยงถังใส่ฝ่ายตรงข้าม หลายคนดึงหน้ากากลงมาไว้ใต้คาง
ประธานาธิบดี เฟลิกซ์ ชีเซเกดี ก็เพิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม หลังพูดติดตลกระหว่างร่วมรับประทานอาหารค่ำกับบรรดาแขกที่ได้รับเชิญเกี่ยวกับการละเมิดเคอร์ฟิวสกัดโควิด-19 ว่า “วันนี้ พวกคุณได้รับอนุญาต”
แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกจะค่อนข้างน้อย แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับโครงการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้าค่อนข้างช้า โดยนับตั้งแต่โครงการฉีดวัคซีนเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 19 เมษายน จนถึงตอนนี้เพิ่งมีประชาชนเข้ารับวัคซีนเพียงแค่ 19,579 ราย
ชาวคองโกจำนวนมากหวั่นกลัวต่อผลข้างเคียงของวัคซีน ขณะเดียวกันโครงการฉีดวัคซีนของประเทศก็ต้องเจอปัญหาติดขัด สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลตัดสินใจเลื่อนใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นน้อยมาก ผลก็คือต้องมีการจัดสรรใหม่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าราว 75% จากที่มีอยู่ทั้งหมด 1.7 ล้านโดส เพื่อรับประกันว่ามันจะถูกนำไปใช้ในที่อื่นๆ ก่อนหมดอายุ
(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)