วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wittawat Shima Ansusingh ซึ่งเป็นเซเลบการเมืองบนโลกออนไลน์ โพสต์ข้อความหัวข้อ “#บ่นก่อนนอน” เมื่อคืนวันที่ 29 มิ.ย. ระบุว่า “ไปเป็นพยานคดี ม.112 ที่ตัวเองเป็นคนแจ้งความไปเมื่อปี 64 จริงๆ คคิดอยู่นานมากว่าจะแจ้งความเองเลยดีไหม เพราะส่งเรื่องไปยังเพจของ DES หลายต่อหลายเดือนคอยตามก็ไม่คืบ ท้ายสุดเลยตัดสินใจแจ้งความเอง
ตัวผู้กระทำความผิดเป็นนักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งในภาคอีสาน เด็กคนนี้มาโต้แย้งกับผมเรื่องงบสถาบันฯ ในเพจข่าวเพจหนึ่ง เจ้าตัวเชื่อมั่นในข้อมูลที่ตัวมีมากๆ ซึ่งเอามาจากประชาไท และสมผัก (นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล) ผมเองก็เอาข้อมูลจริงไปแย้งจนโต้เถียงกัน ท้ายสุดน้องเขาคงหงุดหงิดสลิ่มแบบผม เลยโพสต์ภาพตัดต่อ ร.๙ และ ร.๑๐ อย่างมั่นใจว่าคือภาพจริง พร้อมทั้งปรามาสว่า คนแบบนี้สลิ่มกราบไหว้บูชาไปได้ยังไง ผมจึงจบบทสนทนาว่า งั้นไปพิสูจน์ที่ศาล น้องยังกดหัวเราะแบบไม่แยแส
หลังจากกระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนมาถึงที่ศาล ภาพวันนี้ที่ผมเห็น…
คือเด็กผู้ชายหน้านิ่งเฉย ที่เดินก้มหน้าตลอดเวลา ข้างกายคือพี่สาวและพ่อ ซึ่งเข้ามาคุยกับผม ตัวพี่สาวร้องไห้ บอกว่าน้องสนใจการเมืองมากตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย เคยลงมาชุมนุมที่กรุงเทพฯ อยู่สองครั้ง อ่านแต่เพจการเมือง เรียนก็ไม่ดี วันๆ ตามแต่เรื่องบ้านเมือง พ่อเองเป็นข้าราชการเกษียณอายุก็พยายามบอกข้อมูลแต่เขาไม่เชื่อ นั่งพูดคุยกันสักพักเจ้าตัวก็หันมายกมือไหว้ขอโทษผม พ่อเขาบอกกับผมว่า “…ลูกผมจะไม่ทำผิดอีก ช่วยเชื่อลูกชายผมทีนะคุณ…” ระหว่างสืบจำเลย ผมเห็นพ่อเขาถอนหายใจอยู่หลายหน พี่สาวก็นั่งตาแดงก่ำ
ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะกลับใจไหม และผลคำพิพากษาจะออกมายังไง แต่ภาพที่เห็นคือคนที่เสียใจที่สุดไม่ใช่คนทำ แต่คือครอบครัว ส่วนศาสดาก็ไม่ได้รับรู้อะไรอยู่แล้ว ส่วนไอ้พวกที่ช่วยคอมเมนต์รุมยำผม ก็ไม่มีใครมาช่วย นี่แหละชีวิตผลไม้พิษของจริง จะมีเด็กแบบนี้อีกกี่คน น่าเศร้านะ แต่ทำผิดก็ต้องชดใช้กรรมครับ
เดือนกรกฎาฯ มีสืบอีกคดี … รายนั้นเป็นคนรู้จักผมด้วย เคยเตือนหลังไมค์ก็ไม่หยุด ผมเสียใจนะที่ต้องแจ้งความคนที่รู้จัก จริงๆ เฮ้อออ #สนับสนุนม112