#ที่นี่ประเทศไทย
three-coloured flag
ไตรรงค์ = ธงชาติไทย
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์.
#เสาหลักของชาติไทย คือสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คนไทยจักต้องหวงแหนและรักษาไวัด้วยชีวิต….
สถาบันพระมหากษัตริย์ : บทบาทที่สำคัญของพระมหากษัตริย์ปัจจุบัน
บทบาทที่เกี่ยวกับประเทศชาติ
ทรงเป็นประมุขของชาติ เป็นที่เคารพสักการะสูงสุด และเป็นมิ่งขวัญของชาติ
ทรงเป็นศูนย์รวมน้ำใจของประชาชน
ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก และทรงเป็นพุทธมามกะ
ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของคนในชาติ
ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย
ทรงใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน ผ่านทางสถาบันบริหารนิติบัญญัติ และตุลาการ
บทบาทหน้าที่เกี่ยวกับ ประชาธิปไตย
ทรงยอมรับ และอุ้มชูระบอบประชาธิปไตยให้ดำรงอยู่ได้
ทรงทำให้ระบอบประชาธิปไตยมีความต่อเนื่อง
ทรงช่วยแนะนำรัฐบาลด้านการปกครองยามจำเป็น
ทรงช่วยยับยั้งเหตุการณ์รุนแรงให้ผ่อนคลาย
ทรงใช้อำนาจอธิปไตยในนามของประชาชนชาวไทย
ทรงเป็นกลางทางการเมือง
บทบาทด้านวิทยาการของชาติ
ทรงสนับสนนุด้านการศึกษาละศิลปะวัฒนธรรมของชาติ
ทรงสนพระทัยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์แก้ปัญหาให้ราษฎร
พระราชทานทุนเล่าเรียนหลวง
ทรงส่งเสริมการจัดประชุมทางวิชาการสาขาต่าง ๆ
บทบาทที่เกี่ยวกับประชาชน
ทรงช่วยเหลือ และห่วงใยในความเป็นอยู่ของราษฎรอย่างแท้จริง
ทรงออกเยี่ยมเยียนราษฎรทั่วประเทศ
ทรงช่วยกระตุ้นให้คนไทยอื่น ๆ ตระหนักในความเดือดร้อนของเพื่อรวมชาติ และหาทางช่วยเหลือ
ทรงสร้างความเป็นปึกแผ่นของคนภายในชาติ ไม่ให้เชื้อชาติศาสนา และเผ่าพันธุ์ เป็นเครื่องทำลายความแตกแยก
ทรงแสดงบทบาทในการช่วยพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ทำให้ราษฎรมีความเป็นอยู่ดีขึ้น
ทรงช่วยแก้ไขวิกฤตการณ์สำคัญของชาติ เช่น ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร
การปฏิวัติในปี พ.ศ. 2475 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสังคมไทยจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตยที่สถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งต่อมาเรียกว่า “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ”ปฏิเสธไม่ได้ว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นผลของการประนีแประนอมระหว่างชนชั้นนำหัวก้าวหน้ากับชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมที่เรียกกันว่า “พวกนิยมเจ้า” (Royalists) ซึ่งหากมองในแง่บวกการประนีประนอมดังกล่าวถือเป็นความฉลาดของชนชั้นนำในยุคนั้นที่ไม่ประสงค์ ให้เกิดการแตกหักนองเลือดขึ้นแผ่นดิน และต้องการประสานเชื่อมโยงคุณค่าของสถาบันกษัตริย์กับระบอบประชาธิปไตยให้พัฒนาไปด้วยกัน
โดยกำหนดหลักการไว้ในรัฐธรรมนูญและถือเป็นวัฒนธรรมในทางปฏิบัติของพสกนิกรชาวไทยว่าสถาบันกษัตริย์ในสถานะที่ใครจะล่วงละเมิดมิได้ และอยู่เหนือความเป็นฝักฝ่ายทางการเมือง
แต่กับปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า นับแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 และล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 ได้ทรงสละพระราชอำนาจให้แก่ปวงชนชาวไทยแล้ว แต่อำนาจอธิปไตยก็ไม่เคยตกเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะนับจากนั้นมา อำนาจอธิปไตยของปวงชนได้ตกเป็น “สมบัติผลัดกันชม” ของชนชั้นนำในกลุ่มอำมาตยาธิปไตยและกองทุนธุรกิจการเมืองมาโดยตลอด ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทยจึงเต็มไปด้วยการช่วงชิงอำนาจ “คอร์รัปชั่นรัฐประหาร” ของกลุ่มชั้นนำดังกล่าว และได้แพร่เชื้อการทุจริตคอร์รัปชั่นกระจายไปในทุกอณูของสังคม จนคอร์รัปชั่นกลายเป็นประเพณีปฏิบัติของภาคราชการและเอกชน ซึ่งยากจะแก้ไขให้ลดลงได้ ท่ามกลางสภาวะความเป็นจริงดังกล่าว สถาบันกษัตริย์เป็นสถาบันหลักเพียงสถาบันเดียวก็ว่าได้ที่ดำรงความน่าเชื่อถือและเป็นที่พึ่งของประชาชนตลอดมา
###
We always love and honor to the monarchy..!!
เรามีความจงรักและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์เสมอมา..!!
One for all. พระราชาของประชาชน..!!
All for one. ประชาชนของพระราชา,,!!
ทรงพระเจริญ
พลเอก กิตติ รัตนฉาย