‘คารม’แจงเหตุเป็น’งูเห่า’
“อยู่(พรรค)ก้าวไกลทำอะไรไม่ได้”
‘งูเห่า’ข้ามปี คารม พลพรกลาง อดีตทนายความ นปช. ในทางทฤษฎี เขาคือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แต่ในทางปฏิบัติ คือองครักษ์พิทักษ์ ภูมิใจไทย เคลื่อนไหวหรือแม้แต่ที่นั่งในสภา ก็เป็นพรรคภูมิใจไทย
คารม และส.ส.อย่างน้อย 4 คนในพรรคก้าวไกล ไม่ได้ร่วมกิจกรรมหรือเคลื่อนไหวกับพรรคได้เกือบปีแล้ว นับตั้งแต่ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่เขากับส.ส.4 คนแหกมติพรรค ให้ความไว้วางใจอนุทิน ชาญวีรกุล และศักดิ์สยาม ชิดชอบ 2 รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย แต่เขาลงคะแนนไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งหลังสุด นอกจากยังโหวตไว้วางใจ 2 ผู้นำพรรคภูมิใจไทยที่ถูกจับขึ้นเขียงอีกรอบแล้ว เขายังเป็นหนึ่งในรายขื่อองครักษ์ร่วม 20 คนที่ศุภชัย ใจสมุทรประกาศเป็นผู้พิทักษ์อนุทินและภูมิใจไทย แม้จะยังเป็นส.ส.พรรคก้าวไกล
ทั้งยังทำหน้าที่ประท้วง เบรคการอภิปรายโจมตีหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยในฐานะรัฐมนตรึสาธารณสุขอย่างเข้มข้น
“ความจริงผมสามารถย้ายพรรคได้ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่โดนยุบแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นพรรคก้าวไกล”คารมเปิดใจระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษที่รัฐสภา “จากนั้นมาผมก็ชัดเจนมาตลอด ในทางปฏิบัติไม่ใช่ส.ส.พรรคก้าวไกลอีก แม้แต่เวลานั่งในห้องประชุมสภา ก็ไม่เคยนั่งในพื้นที่ที่สภาติดป้ายไว้เป็นของพรรคก้าวไกล ผมจะไปนั่งติดกับพื้นที่ของภูมิใจไทยตลอด”
สาเหตุที่ต้องทางใคร-ทางมันกับพรรคก้าวไกล คารมบอกว่า เพราะส.ส.ทุกคนต้องเห็นตรงกับพรรค เห็นต่างไม่ได้ พรรคยังมีข้อกำหนดไม่ให้ส.ส.ในพรรคตั้งกลุ่มก๊วนเด็ดขาด จะมีได้เฉพาะกลุ่มของแกนนำเท่านั้น จึงเป็นเรื่องยากสำหรับส.ส.ที่ต้องความเป็นอิสระในทางความคิดหรือแนวทางทางการเมือง ไม่ใช่ปิดกั้น เข่น กรณีสถาบัน
“ผมเป็นคนอีสาน เกิดที่จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งความจริง มีเรื่องหรือปัญหาของคนอิสานที่สามารถขับเคลื่อนได้ ตั้งแต่ความยากจน ปัญหาที่ทำกิน ภัยแล้ง แรงงาน แต่พรรคไม่เปิดช่องทางให้เลย ผมเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ สามารถทำงานเพิ่อพี่น้องได้ทั่วประทศตามเจตนารมณ์ที่เข้ามาทำงานการเมือง แต่กลับทำไม่ได้ พรรคไม่ยอมเปิดโอกาสและช่องทางให้ทำ นี่คือคำตอบสำคัญว่าทำไมต้องแยกทางกับพรรค”คารมกล่าว
เขายอมรับว่า การเลือกพรรคภูมิใจไทย เพราะในการเลือกตั้งครั้งหน้า เขาตั้งใจจะลงสมัครส.ส.เขตที่จ.ร้อยเอ็ด บ้านเกิด ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ของส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อต้องลงแข่งขันกัน ชื่อชั้นพรรคการเมืองที่สังกัด ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทย จึงคู่คี่สูสีกันกว่าการเลือกลงสมัครในพรรคการเมืองขนาดเล็ก
คารมย้ำว่า ยังมีไฟและความมุ่งมั่นจะทำงานการเมืองให้กับประชาชน ตอนนี้เป็นช่วงการเก็บเกี่ยวสั่งสมประสบการณ์ และเมื่อถึงเวลา การย้ายจากพรรคก้าวไกลอย่างเป็นทางการก็จะเกิดขึ้นตามมา
ประจักษ์ มะวงศ์สา