โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันเสาร์ (3 ก.ย.) ตราหน้า โจ ไบเดน “เป็นศัตรูของประเทศ” ตอบโต้คำกล่าวหาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อ้างว่าเขาและผู้สนับสนุนกำลังบ่อนทำลายประชาธิปไตยของอเมริกา นอกจากนี้ ยังได้ประณามปฏิบัติการของเอฟบีไอในการจู่โจมตรวจค้นบ้านพักของเขาในฟลอริดาเมื่อเดือนที่แล้ว
ในการปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปฏิบัติการจู่โจมเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ทรัมป์ระบุว่า การตรวจค้นดังกล่าวคือ “การเย้ยหยันกระบวนการยุติธรรม” และเตือนว่ามันจะก่อน “ไฟย้อนศพแบบที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน”
“ไม่มีตัวอย่างไหนที่ชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว ในเรื่องของภัยคุกคามที่แท้จริงต่อเสรีภาพของอเมริกา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน พวกคุณได้เห็นกันแล้ว เราได้เป็นสักขีพยานการใช้อำนาจโดยมิชอบของรัฐบาลหนึ่งๆ ครั้งสุดช็อกที่สุดหนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอเมริกา” ทรัมป์กล่าว
เขาบ่งชี้ว่ารัฐบาลของไบเดนบัญชาการปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นที่สวนทางกับระเบียบการต่างๆ ที่ยึดถือกันมาช้านาน ที่กระทรวงยุติธรรม และเอฟบีไอจะดำเนินการอย่างเป็นอิสระโดยปราศจากการแทรกแซงของทำเนียบขาว
ทรัมป์ บอกกับฝูงชนที่ส่งเสียงเชียร์ ณ เวทีที่จัดขึ้นที่เมืองวิลก์ส-แบร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ว่า “การละเมิดกฎหมายอย่างเลวทราม” กำลังก่อไฟย้อนศรอย่างที่ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน นอกจากนี้ เขายังตอบโต้คำกล่าวของ ไบเดน เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งประธานาธิบดีกล่าวว่า ทรัมป์และพวกผู้สนับสนุนรีพับลิกัน “เป็นตัวแทนของพวกหัวรุนแรงที่รุนแรงที่คุกคามรากฐานสาธารณรัฐของเรา”
ระหว่างปราศรัยในฟิลาเดลเฟีย ประธานาธิบดีไบเดนเปิดฉากโจมตีบรรดาผู้สนับสนุนรีพับลิกัน ที่อ้าแขนรับอุดมการณ์ “ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ของทรัมป์ และเรียกร้องเหล่าผู้สนับสนุนของตนเองตอบโต้กลับในสิ่งที่เขาเรียกว่า “เป็นการต่อสู้เพื่อจิตวิญญาณของประเทศ”
ทรัมป์ ประณามมันว่าเป็นคำปราศรัยที่ชั่วช้า เกลียดชังและสร้างความแตกแยกมากที่สุดเท่าที่ประธานาธิบดีอเมริการายหนึ่งๆ เคยพูดมา “เขาคือศัตรูของประเทศ พวกคุณจำเป็นต้องรู้ไว้” เขากล่าว “ชาวรีพับลิกันในขบวนการเคลื่อนไหว MAGA movement (ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง) ไม่ใช่กลุ่มคนที่พยายามบ่อนทำลายประชาธิปไตยของเรา”
“เราเป็นกลุ่มคนที่พยายามปกป้องประชาธิปไตยของเรา ง่ายๆ เลย อันตรายต่อประชาธิปไตยมาจากพวกซ้ายจัด ไม่ใช่จากฝ่ายขวา” เขากล่าว
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ปรากฏตัวในเพนซิลเวเนีย เพื่อระดมเสียงสนับสนุนจากชาวรีพับลิกัน ก่อนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งอาจได้เห็นพรรคเดโมแครตสูญเสียเสียงข้างมากทั้ง 2 สภาของสภาคองเกรส
ปรากฏตัวครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ทรัมป์กำลังเผชิญแรงกดดันทางกฎหมายหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับเอกสารต่างๆ ที่เอฟบีไอค้นพบที่คฤหาสน์ของเขาในมาร์อาลาโก
กระทรวงยุติธรรมระบุในเอกสารที่ยื่นต่อศาล ว่าเอกสารลับของรัฐบาล ในนั้นมีเครื่องหมาย “ลับสุดยอด” ถูกพบที่สำนักงานส่วนตัวของทรัมป์ ระหว่างการตรวจค้น
รายละเอียดของปฏิบัติการตรวจยึดดังกล่าว ยังเผยให้เห็นว่าทรัมป์ถือครองเอกสารรัฐบาลที่ไม่เป็นความลับอีกมากกว่า 11,000 ฉบับ ซึ่งเขาอ้างว่าเก็บรักษาไว้ แต่ในทางกฎหมายแล้วมันเป็นของสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ในบรรดาเอกสารที่ยึดได้ มีอยู่ 18 ฉบับที่ติดป้ายกำกับ “เอกสารลับสุดยอด” 53 ฉบับติดป้าย “เอกสารลับ” และอีก 31 ฉบับติดป้าย “เอกสารปกปิด”
เจ้าหน้าที่ยังพบแฟ้มเปล่าอีกหลายสิบแฟ้มที่ติดป้าย “เอกสารลับ” ในสำนักงานส่วนตัวของทรัมป์ ก่อการคาดเดาว่าเอกสารอ่อนไหวเหล่านั้นอาจสูญหาย ถูกทำลายหรือเคลื่อนย้ายไปแล้ว
(ที่มา : เอเอฟพี)