รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2564 กล่าวว่า คำพิพากษาของศาลฮ่องกงในวันเดียวกันนี้ทำให้โทนี ชุง กลายเป็นคนอายุน้อยที่สุดที่ถูกตัดสินว่าทำผิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ที่จีนออกมาบังคับใช้กับฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
ชุง ซึ่งเป็นอดีตแกนนำกลุ่มหนุนเอกราชในชื่อ “นักศึกษาท้องถิ่นนิยม” ที่ยุบตัวก่อนหน้ากฎหมายความมั่นคงจะมีผลบังคับใช้ ยอมรับสารภาพผิดในข้อหาแบ่งแยกดินแดน และข้อหาฟอกเงินอีก 1 ข้อหา แต่เขาปฏิเสธข้อหาปลุกปั่นโค่นล้มรัฐและข้อหาฟอกเงินอีกข้อหา
อัยการอีวาน เฉิง กล่าวว่า ชุงเป็นผู้ดำเนินการเพจเฟซบุ๊กของกลุ่มนักศึกษาท้องถิ่นนิยมสาขาสหรัฐ และองค์กรชื่อ พรรคริเริ่มเอกราช การตรวจค้นที่บ้านของเขาพบเสื้อยืด, ธง และหนังสือที่สนับสนุนเอกราชฮ่องกง ส่วนข้อหาฟอกเงินนั้นเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคที่เขาได้รับผ่านบัญชีเพย์พาล
เจ้าหน้าที่ฮ่องกงจับกุมชง ซึ่งตอนนั้นอายุ 19 ปี พร้อมกับพวกอีก 2 คน ที่ร้านกาแฟร้านหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำฮ่องกงไม่กี่เมตร เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เขาถูกปฏิเสธประกันตัวและโดนคุมขังมานับแต่นั้น
กลุ่ม “เพื่อนของฮ่องกง” ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ออกแถลงการณ์หลังจากชุงถูกจับกุมว่า พวกเขากำลังพยายามจัดการให้ชุงเข้าสถานกงสุลสหรัฐในวันนั้นเพื่อขอลี้ภัย
ระหว่างให้การในศาลเมื่อวันพุธ ชุงกล่าวต่อศาลว่า เขามีสติสัมปชัญญะและไม่มีสิ่งใดต้องละอายแก่ใจ ทำให้ผู้พิพากษาสแตนลีย์ ชาน กล่าวเตือนทันทีว่า ศาลไม่อนุญาตให้กล่าวถ้อยคำเกี่ยวข้องกับการเมืองในศาล และนัดวันอ่านคำพิพากษาโทษวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้
คดีของชุงเป็นคดีแบ่งแยกดินแดนคดีที่ 4 ที่ถูกพิจารณาคดีตามกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา เขาก็ถูกตัดสินจำคุก 4 เดือนฐานดูหมิ่นธงชาติจีนและชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย
ทางการฮ่องกงเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติจะไม่มีผลย้อนหลังกับการกระทำในอดีต แต่อัยการอ้างความผิดหลายประการที่เกิดขึ้นก่อนหน้ากฎหมายจะเริ่มบังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว
รัฐบาลจีนออกกฎหมายฉบับนี้มาเพื่อกำราบฝ่ายต่อต้านหลังจากการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในฮ่องกงเมื่อ 2 ปีก่อน โดยกฎหมายนี้ครอบคลุมความผิดที่จีนมองว่าเป็นการแบ่งแยกดินแดน, การโค่นล้มระบอบ, การสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ หรือการก่อการร้าย
อัยการกล่าวว่า กลุ่มนักศึกษาท้องถิ่นนิยมซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2559 และยุบตัวเมื่อปีที่แล้ว รณรงค์เคลื่อนไหวให้ฮ่องกงกำจัดการปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสร้างสาธารณรัฐฮ่องกงขึ้น เครือข่ายนี้เผยแพร่สารของพวกเขาผ่านโซเชียลมีเดีย, การจัดบูธริมถนน, เรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมการประท้วง และขายสินค้าที่มีข้อความเรียกร้องเอกราช
คำให้การของอัยการต่อศาลกล่าวด้วยว่า กลุ่มนี้ออกคำแถลงวิงวอนให้สหรัฐผ่านกฎหมายแซงก์ชันฮ่องกงและจีน และยังรณรงค์คัดค้านการสอนภาษาจีนกลางในโรงเรียนฮ่องกง
นอกจากชุง มีจำเลย 4 คนก่อนหน้านี้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดภายใต้กฎหมายความมั่นคง ที่ทำให้นักการเมืองและนักเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยและเอกราชของฮ่องกงถูกจับกุมมากกว่า 150 ราย โดยราวครึ่งหนึ่งถูกตั้งข้อหาดำเนินคดีและถูกปฏิเสธการประกันตัว.