ในวันที่ 4 ก.ย. 2567 เวลา 9.00 น. ศาลจังหวัดเชียงรายนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีของ “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร พ่อค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์และนักกิจกรรมในจังหวัดเชียงรายวัย 31 ปี ผู้ถูกกล่าวหาในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการโพสต์เฟซบุ๊กรวม 2 โพสต์ เมื่อวันที่ 28 และ 30 ก.ค. 2565
คดีนี้นับเป็นคดีมาตรา 112 คดีที่ 3 ที่บัสบาสถูกกล่าวหา ในช่วงที่เขาเคลื่อนไหวทางการเมืองระหว่างปี 2563-65 โดยคดีมี พ.ต.ต.ปราโมทย์ บุญตันบุตร ฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เป็นผู้กล่าวหา
ในคดีนี้ บัสบาสถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย ไปจับกุมจากบ้านในอำเภอพาน เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2565 โดยมีการแสดงหมายจับและหมายค้นของศาล ตำรวจตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและเสื้อยืดที่มีข้อความทางการเมือง พร้อมกับนำตัวเขาไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเชียงราย
บัสบาสต่อสู้คดี โดยรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความทั้งสองโพสต์จริง แต่ต่อสู้ว่าข้อความไม่เป็นความผิดตามมาตรา 112 โดยมีลักษณะเป็นการล้อเลียน ขณะเดียวกันก็พยายามต่อสู้ถึงปัญหาของมาตรา 112 และการสั่งให้บังคับใช้หรือหยุดบังคับใช้ไปตามสถานการณ์ทางการเมือง
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 ศาลจังหวัดเชียงรายพิพากษาว่าเขามีความผิดตามฟ้องในทั้ง 2 กระทง โดยเห็นว่าข้อความเป็นการใส่ร้ายกล่าวหาพระมหากษัตริย์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเกียรติยศชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง โดยจะถือตามความเข้าใจของจำเลย ซึ่งเป็นผู้กล่าวเองมิได้
ศาลลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม เหลือโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี และศาลให้เพิ่มโทษจำคุกอีก 6 เดือน จากคดีที่จำเลยถูกกล่าวหาจากความผิดเรื่องการบุกรุกเคหสถานที่ศาลจังหวัดเชียงรายนี้ และก่อนหน้านี้ศาลให้รอการลงโทษไว้ รวมลงโทษจำคุกทั้งหมด 4 ปี 6 เดือน
นอกจากนั้น ศาลยังสั่งให้นับโทษจำคุกต่อจากคดีตามมาตรา 112 สองคดีก่อนหน้านี้ที่จำเลยถูกกล่าวหาด้วย หลังพิพากษาคดีนี้ ศาลจังหวัดอุทธรณ์ภาค 5 ยังอนุญาตให้ประกันตัว และฝ่ายจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อมา โดยยืนยันว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามมาตรา 112
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 ศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีคำพิพากษาในคดีมาตรา 112 สองคดีแรกที่บัสบาสถูกกล่าวหา จากการโพสต์เฟซบุ๊กรวม 27 โพสต์ โดยแก้จากเดิมที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องไป 13 โพสต์ เป็นเห็นว่าเขามีความผิดรวมถึง 25 โพสต์ ลงโทษจำคุกกระทง 3 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษเหลือกระทงละ 2 ปี รวมโทษจำคุก 50 ปี บัสบาสก็ไม่ได้รับการประกันตัวในคดีดังกล่าวอีก
คำพิพากษาดังกล่าว ทำให้กรณีของบัสบาส นับเป็นคดีมาตรา 112 ที่ถูกลงโทษสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่ทราบข้อมูล โดยเขายังยื่นฎีกาคำพิพากษาต่อมา ทำให้คดียังไม่ถึงที่สุด และเขาถูกคุมขังที่เรือนจำกลางเชียงรายมากว่า 7 เดือนแล้ว
นอกจากนั้น หากคดีมาตรา 112 คดีที่สามนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จะทำให้โทษจำคุกของบัสบาสถูกนับต่อจากสองคดีแรก โดยเขาจะได้รับโทษจำคุกทั้งสามคดีรวมสูงถึง 54 ปี นับเป็นผู้ถูกลงโทษจำคุกในข้อหานี้สูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน