เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #คุณแม๊เบรคแตก ! ไม่ยอมโอนคดีแตงโมไปเป็นคดีพิเศษ ไม่สนหลักฐานใหม่

#คุณแม๊เบรคแตก ! ไม่ยอมโอนคดีแตงโมไปเป็นคดีพิเศษ ไม่สนหลักฐานใหม่

22 March 2022
290   0

   22 มี.ค.2565 -​ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วยนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ร่วมกันแถลงข่าวผ่านระบบวิดีโอคอลกรณี น.ส.รสนา โตสิตระกูล พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ ยื่นหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้รับเป็นคดีการเสียชีวิตของแตงโม เป็นคดีพิเศษ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘รสนา-ทนายนกเขา’บุกร้องดีเอสไอ 11 ข้อสงสัยจี้รับคดี’แตงโม’เป็นคดีพิเศษ)

นางภนิดา กล่าวว่า กรณีทนายนกเขา และนางรสนา โตสิตระกูล ได้ไปยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อขอให้โอนคดีจากตำรวจเข้าบรรจุเป็นคดีพิเศษนั้น แม่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากตำรวจทำมาเยอะแล้วและจากที่ไปโรงพักก็เห็นการทำงานของตำรวจว่าทำอย่างละเอียดรอบคอบ และผบ.ตร. ก็สั่งให้ทำคดีอย่างละเอียดยิบ ดังนั้นถ้าหากดีเอสไอจะเข้ามาทำคดีต่อก็จะทำให้เกิดความยุ่งเหยิงวุ่นวายไปกันใหญ่

ต่อข้อถาม ความคิดเห็นที่มีการยื่นเรื่องให้ดีเอสไอทำคดีพิเศษนั้น แม่แตงโม กล่าวว่า ขอให้หยุดดิ้นดีกว่า หมดเวลาแล้วที่จะเข้ามา ทำให้เสียเวลาทำไม ซึ่งคดีน้องก็ไม่ใช่คดีฆาตกรรม เป็นคดีตกน้ำตกเรือ

ต่อข้อถามให้เหตุผลว่า ด้วยความหวังดีในฐานะผู้หญิงด้วยกันนั้น แม่แตงโม กล่าวว่า ตำรวจทำใกล้จะจบแล้ว ช่วงนี้ถ้านับหนึ่งใหม่จะยุ่งเหยิงไปใหญ่ และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีการประสานคุณแม่ แต่ก็ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมีอะไรแอบแฝง เพราะคดีนี้มีแค่ 5 คนบนเรือเท่านั้น

“ตอนนี้แม่เหนื่อยแล้ว ถ้ามีบุคคลต่อจากนี้ขอให้ไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีเพราะเรามีทนายเดชาอยู่แล้ว หากใครจะมีหลักฐานให้เพิ่มเติมเวลาผ่านมานานแล้ว”แม่แตงโม กล่าว

ต่อเขาถามกรณีที่ล่าสุดมีคลิปที่อ้างว่า แตงโมว่ายน้ำครึ่งชั่วโมงนั้น แม่แตงโม กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องจริงจะรู้สึกเศร้าใจว่าไม่มีคนช่วยชีวิตลูก แต่ถ้าตอบตรง ๆ คิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง เพราะแตงโมมีบาดแผลใหญ่จะว่ายน้ำได้นาน 30 นาทีหรือ ทั้งนี้ เรื่องหลักฐานก็แล้วแต่ส.ส.เต้ สามารถมาเสนอทนายเดชาและจะตัดสินใจอีกครั้ง

เมื่อถามถึงประเด็นกลัวคนมาหาแสงจากคดีหรือไม่ แม่แตงโม กล่าวว่า เรื่องหาแสงเลิกพูดดีกว่า ทุกคนมาช่วยได้ คำว่าหาแสงไม่ดี เช่นเดียวกับคำว่าเปอร์เซ็นต์เช่นกัน ขออย่าตัดคำพูดแม่ไป

เมื่อถามว่า คุณแม่ต้องการให้นำใครเข้าเครื่องจับเท็จหรือไม่ แม่แตงโม กล่าวว่ าอยากให้มี 3 คนคือกระติก แซน จ๊อบ ซึ่งยังไม่ยอมพูดอะไรใดๆทั้งสิ้นว่าเกิดอะไรขึ้นบนเรือ อยากให้มีการสารภาพว่าทำอะไรกัน ซึ่งคุณแม่รู้ว่ามีคนรู้ คนเห็น แต่ปิดปากเงียบว่าเกิดอะไร คุณแม่คิดว่ามีสิ่งที่ซ่อนเร้นอะไรที่ทำให้เขาไม่พูด ไม่สารภาพ เป็นผลประโยชน์ที่คิดว่าเขาได้แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ปอ และโรเบิร์ตต้องการให้เข้าเครื่องจับเท็จหรือไม่ แม่แตงโม กล่าวว่า คุณแม่จำได้ว่าพอก่อนไปบวชพูดถึง 2 ครั้งว่าหลังไปบวชกีลับมาผมจะสารภาพทั้งหมด ข้อนี้สำคัญแม่จะจำไว้ว่าเขาจะพูดอะไร

เมื่อถามว่ามีการวิจารณ์กันมากว่าคุณแม่ได้เงินจากปอและระเบิดไปแล้วนั้น แม่แตงโม ยืนยันว่า ไม่ได้สักบาท ซึ่งกว่าจะได้เงินอีกนาน ขั้นตอนอีกมาก ต้องมีขั้นตอนไปขึ้นศาลว่าตกลง กันอย่างไร ถ้าพูดถึงตัวเงินเรียกค่าเสียหายให้น้อง แต่ขออย่าข้ามขั้นตอนเพราะเรื่องมันจะยุ่ง

ด้านทนายเดชา กล่าวว่า การยื่นเรื่องที่ดีเอสไอเป็นสิทธิ แต่โดยหลักคนที่ไปยื่นต้องเป็นผู้เสียหาย คือ แม่ของแตงโม เมื่อผู้เสียหายไม่ประสงค์ให้โอนย้ายคดี ดีเอสไอก็ไม่ควรนำเข้าคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณา เพราะคดีนี้เป็นคดีประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไม่ใช่คดีอาชกรรมร้ายแรง เช่น แชร์ลูกโซ่ ค้ามนุษย์ ทั้งนี้ เมื่อผู้เสียหายไม่มีความประสงค์เข้าเป็นคดีพิเศษ แล้วจะเอาเข้าคดีพิเศษได้อย่างไร

ส่วนเรื่อการนำเข้าเครื่องจับเท็จนั้น ทนายเดชา กล่าวว่า ตำรวจได้แจ้งอย่างเป็นทางการ ว่า การนำบุคคลเข้าเครื่องจับเท็จนั้น ต้องสอบพยานบุคคลครบถ้วน รวมทั้งพยานหลักฐาน พยานวัตถุ และสรุปผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์, บุคคลที่จะนำเข้าเครื่องจับเท็จต้องไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ตั้งครรภ์, ผลการตรวจพิสูจน์จากการใช้เครื่องจับเท็จ ใช้ได้เพียงประกอบการสืบสวนสอบสวน ซึ่งเมื่อแม่ของแตงโมประสงค์ให้นำบุคคลบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ ตนเองก็จะแจ้งไปยังตำรวจเพื่อให้ดำเนินการต่อไป