จากกรณีที่มีผู้นำอาวุธสงครามมาทิ้งไว้ที่ อ.แปดริ้ว จ. ฉะเชิงเทรา และเตรียมออกหมายจับนั้น ปรากฏว่าเมื่อช่วงเย็น
ตรงประเด็น-วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร ได้เดินทางเข้ามาติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยรักษาความสงบฯ ศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศ ทบ.1 ในพื้นที่วังน้อย-ปทุมธานี
โดยจากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวมาควบคุมไว้ในมณฑลทหารบกที่ 11 ตาม ม.44 ฐานความผิดมีอาวุธสงครามในครอบครอง ทั้งนี้ จะนำตัวนายวัฒนาไปขออนุมัติศาลเพื่อฝากขังผัดแรก
วันที่ 7 ธันวาคมนี้ เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวครบ 7 วัน โดยกำลังพิจารณาว่าจะส่งศาลทหารหรือศาลพลเรือน
จากการซักถามและตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่า นายวัฒนา มีความเชื่อมโยงกับ
เครือข่ายแดงฮาร์ดคอร์ และเคยต้องคดีมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองมาแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ตร.อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย
โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2557 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการกฎหมาย กอ.รมน. และทหาร เคยร่วมกันแถลงข่าวจับกุม
นายวัฒนา หรือนายศิวะ ทรัพย์วิเชียร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี เลขที่ 14 ก./2557 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2557 ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย โดยขยายผลจากการจับกุมนายสมเจตน์ คงวัฒนะ หรือสน เครือข่ายวังน้อย ผู้ที่ทำการแจกจ่ายอาวุธ เช่น เอ็ม 79 ระเบิดอาร์จีดี 5 ให้บุคคลต่างๆ เพื่อไปสร้างความวุ่นวายแก่ประชาชนในช่วงที่มีการชุมนุม ได้ซัดทอดว่าได้ส่งมอบอาวุธให้นายวัฒนาเพื่อให้นำไปแจกจ่ายอีกทอด เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนข้อเท็จจริงก่อนออกหมายจับ จากนั้นได้นำกำลังไปทำการจับกุมตัวนายวัฒนา จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยครั้งนั้นนายวัฒนาให้การว่า ไปรับอาวุธจากนายสมเจตน์จริง โดยหลังจากรับมาได้ส่งอาวุธต่อให้นายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์ หรือเปี๊ยก กาละแม เพื่อไปใช้ก่อเหตุในจุดต่างๆ หลังจากนั้นเมื่อ คสช.ประกาศว่าผู้ใดครอบครองอาวุธมีความผิด จึงเกิดความกลัวนำไปฝังดินไว้แถว อ.ลาดบัวหลวง
สำนักข่าววิหคนิวส์