เมื่อวันที่ 25 ม.ค. จากกรณีศาลอาญา นัดอ่านคำสั่งคดีชุมนุมปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งเป็นที่พักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. และ นายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ชุมนุม นปช. ซึ่งตกเป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป, ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำผู้ชุมนุมหลายพันคน จากเวทีปราศรัยท้องสนามหลวง เคลื่อนไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง
สำหรับการนัดพร้อมคดีเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2563 นายจตุพร จำเลยที่ 1 แถลงต่อศาล ว่า คดีนี้ในชั้นพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ ได้ตั้งสำนวนมีผู้ร่วมกระทำความผิดในส่วนของจำเลยพร้อมกับผู้ต้องหาอีกหลายคน แต่เนื่องจากอัยการมีคำสั่งให้ฟ้องผู้ต้องหาแต่ละคนแยกสำนวนคนละคดีในลักษณะเลือกตัวบุคคลซึ่งเป็นการมิชอบ จำเลยที่ 1 เห็นว่าการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาถึงประเด็นดังกล่าว ต่อมาอัยการโจทก์แถลงถึงผู้ต้องหาที่เหลือมีทั้งคดีขาดอายุความและเสียชีวิตแล้ว จำเลยจึงขอทราบเกี่ยวกับเรื่องการทำงานของโจทก์ในการติดตามตัวที่เหลือมาฟ้องคดี ศาลจึงนัดฟังคำสั่งในวันนี้ ทั้งนี้มีรายงานว่า ศาลได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีวันนี้ออกไปก่อน เนื่องจากเป็นไปตามมาตรการของศาล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ศาลจึงเลื่อนนัดพร้อมฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 22 มี.ค.นี้