ข่าวประจำวัน » #จะดันทุรังเอาฝ่ามือปิดฟ้า ปิดหูปิดตา ผู้คนในสังคมตามรายการถนัดของรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของประเทศให้เสื่อมเสียชื่อเสียงไปไยเพราะท้ายที่สุด ความจริงก็คือความจริง

#จะดันทุรังเอาฝ่ามือปิดฟ้า ปิดหูปิดตา ผู้คนในสังคมตามรายการถนัดของรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของประเทศให้เสื่อมเสียชื่อเสียงไปไยเพราะท้ายที่สุด ความจริงก็คือความจริง

19 July 2019
4543   0

ความจริงย่อมเป็นความจริงวันยังค่ำ จะดันทุรังเอาฝ่ามือปิดฟ้า ปิดหูปิดตา ผู้คนในสังคมตามรายการถนัดของรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของประเทศให้เสื่อมเสียชื่อเสียงไปไยเพราะท้ายที่สุด ความจริงก็คือความจริง 

ความจริงก็คือ เครือ ปตท.นั้น มีบริษัทลูกบริษัทหลานยั้วะเยี้ยะที่เกาะเคย์แมนแดนสวรรค์ของนักฟอกเงินกว่า 30 บริษัท ผู้บริหาร ปตท. จะอมพระมาพูดว่ามีแค่หนึ่งเท่านั้นและปิดไปก็สิ้นเรื่อง แถมยังกล้าเอาความเท็จไปฟ้องศาลอีกเสียด้วย 

แล้วสุดท้ายผลออกมาเป็นเช่นใด ศาลยกฟ้องหน้าแหกเป็นริ้วๆ เพราะข้อมูลที่ นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว.กรุงเทพฯ และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สายพลังงาน เอามาแฉกันให้รู้ถ้วนทั่วว่าบริษัทธรรมมาภิบาลดีเด่นมีบริษัทลูกหลานที่เกาะฟอกเงินด้วยนั้น ไม่ได้มาจากไหนแต่เป็นข้อมูลจากรายงานงบการเงินของบริษัทนั่นเอง 


เรื่องนี้จึงต้องมีรายการย้อนรอยให้เห็นกันจะจะว่า การจะเป็นผู้บริหารระดับสูง ปตท.ได้นั้น ต้องมีความกล้าหาญในการโกหกต่อสังคมอย่างสง่าผ่าเผย ถือเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ 

รายการหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ ศาลไม่รับฟ้องนี้ คราวนี้ นางสาวรสนา ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 บอกเล่าว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ยกฟ้อคดีที่ บมจ.ปตท. ฟ้องร้องเธอจากการเขียนเรื่องที่ บมจ.ปตท.และบริษัทปตท.สผ.มีบริษัทลูกและบริษัทหลานในเกาะฟอกเงินเคย์แมนกว่า30 บริษัท เมื่อวันที่ 31กรกฎาคม 2557 โดย ปตท.ฟ้องว่านางสาวรสนา เขียนข้อความอันเป็นเท็จ แต่หลังการไต่สวนมูลฟ้องแล้ว ศาลได้มีคำสั่งยกฟ้อง 

นั่นก็หมายความว่าเรื่องที่เขียนนั้นเป็นความจริง

สำหรับบทความที่เป็นเหตุให้ ปตท.เต้นเป็นเจ้าเข้า และฟ้องต่อศาลนั้น เป็นบทความที่นางสาวรสนา จั่วหัวว่า “จับโกหกนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร เรื่องปตท.มีบริษัทในเกาะฟอกเงินที่เคย์แมนแค่หนึ่งบริษัท” ซึ่งเป็นการเขียนหลังจากที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ให้สัมภาษณ์แทบลอยด์ไทยโพสต์ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2557ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในคำถาม “ปตท.มีการไปตั้งบริษัทหรือทำบัญชีอะไรที่เกาะเคย์แมนและเรื่องเงินเดือนนายไพรินทร์ที่ได้”


นายไพรินทร์ตอบว่า “ปตท.มีบริษัทในเคย์แมนหนึ่งบริษัท ซึ่งเป็นเพราะเราไปซื้อบริษัทในฟิลิปปินส์เมื่อหลายปีที่แล้ว เราก็จะปิดบริษัทนี้ก็จะจบเรื่องนี้ …….ต้องถามสังคมว่าทำไมสังคม social network ยังยอมให้คนพวกนี้อยู่ต่อได้ พวกที่โกหกคำโต โกหกบ่อยๆ โกหกจนตัวเองก็เชื่อว่าเป็นความจริง”

ไม่รู้ว่านายไพรินทร์ โกหกบ่อยจนเป็นนิสัยถาวรหรือไม่จึงคิดว่า “คนพวกนี้…” จะโกหกเช่นเดียวกันกับตนเองและคงไม่มีใครถือสาหาความ สืบสาวราวเรื่อง แต่คราวนี้นายไพรินทร์ อาจจะคิดผิดถนัด และยังคิดผิดซ้ำอีกเมื่อนำ คดีขึ้นฟ้องต่อศาล เพราะหลังจากที่นายไพรินทร์ ให้สัมภาษณ์กระทบชิ่งไปถึง “คนพวกนี้…” นางสาวรสนา ก็เลยเจียดเวลามาช่วยสงเคราะห์เปิดรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของ ปตท.มายืนยันให้เห็นกันจะแจ้งว่าใครกันแน่ที่โกหกคำโต

ข้อเขียนของนางสาวรสนา ระบุว่า “ได้ตรวจสอบดูรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31ธันวาคม 2556 พบว่ามีบริษัทลูกของปตท.ที่จดทะเบียนในเกาะเคย์แมนถึง 32บริษัท แต่ยกเลิกไป 2 บริษัทในปี2556 ท่านสนใจสามารถดูรายละเอียดจากงบการเงินปี 2556ในหน้า 56-72

“สาธารณชนคงเห็นแล้วว่า ใครกันแน่ที่ชอบโกหกคำโตและนึกว่าคนอื่นจะเชื่อไปด้วย ขนาดมีเอกสารงบการเงินของบริษัทให้ตรวจสอบได้ทั่วไป ยังกล้าให้ข้อมูลเท็จ แล้วข้อมูลอื่นที่สังคมเข้าไม่ถึง จะเชื่อได้ละหรือ?

“ปตท.เปิดบริษัทในหมู่เกาะเคย์แมน (Cayman) ถึง 30 บริษัท ทำไมต้องปิดบัง ทำไมต้องอ้อมแอ้มก็เพราะว่าหมู่เกาะเคย์แมน เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นหนึ่งในเกาะฟอกเงิน ในทะเลแคริบเบียน เช่นเดียวกับ หมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น (British Virgin Island) เกาะฟอกเงินเหล่านี้เป็นดินแดนพิเศษ ที่มีออกแบบกฎหมายภายในเกี่ยวกับภาษีที่เอื้อต่อการโยกย้าย จึงเป็นที่นิยมของกลุ่มทุนข้ามชาติที่นำเงินมาเก็บซ่อนจากการถูกตรวจสอบ หรือกลุ่มธุรกิจการเมืองผิดกฎหมายสามารถนำเงินจากการทุจริตคอร์รัปชันมาเก็บ และฟอกเงินได้ หรือบริษัทธุรกิจที่เปิดบัญชีเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อหลีกเลี่ยงภาระภาษีระหว่างประเทศ หรือธุรกิจมิจฉาชีพที่ได้เงินมาจากการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์และการค้าของเถื่อนอื่นๆ จนถูกเรียกว่าเป็นเกาะสวรรค์สำหรับนักหลีกเลี่ยงภาษี Tax Havens 

“ปัจจุบันมีบริษัทที่จัดตั้งบนหมู่เกาะแห่งนี้กว่า 20,000 บริษัท โดยบริษัทเหล่านั้นจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ไม่มีข้อผูกมัดให้ต้องมีการประชุมคณะกรรมการ หรือการประชุมผู้ถือหุ้นที่นั่นแปลว่า บริษัทดังกล่าวไม่จำเป็นต้องมีตัวตน เป็นเพียง บริษัทกระดาษ (Paper Company) ก็ได้

เกาะฟอกเงินเหล่านี้ในสมัยนักโทษชายหนีดีทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีเคยด่าออกสื่อมวลชนว่า “บริษัทใดที่เอาเงินไปฝากในเกาะฟอกเงินเหล่านี้เป็นพวกคนไม่รักชาติ” เพราะเป็นที่หลีกเลี่ยงภาษี และเป็นที่ฟอกเงินทุจริตผิดกฎหมาย และเป็นที่ผ่องถ่ายกำไรออกไปให้กับกลุ่มการเมือง
“ประชาคมโลกที่ต่อต้านการทุจริตก็ล้วนแต่มือถือสากปากถือศีล เพราะถ้าต้องการกำจัดการคอร์รัปชันอย่างจริงจัง ต้องไม่ปล่อยให้มีเกาะฟอกเงินแบบนี้คงอยู่ในประชาคมโลก หรือไม่ก็ต้องแสดงการต่อต้านอย่างชัดเจน ใครที่ไปใช้บริการบนเกาะฟอกเงินต้องถูกบอยคอต และแซงก์ชั่นการทำธุรกิจในระดับประชาคมโลก ไม่เช่นนั้นการต่อต้านทุจริตก็เป็นเพียงเรื่องแหกตาประชาชนเท่านั้นเอง

“แต่กระนั้นการที่มีข้อมูลว่านาย Romney ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันแข่งกับโอบามา พอถูกเปิดเผยว่ามีบัญชีอยู่ในเกาะเคย์แมนเท่านั้นแหละ คะแนนเสียงก็ตกวูบและพ่ายแพ้ตำแหน่งชิงประธานาธิบดีให้กับโอบามา

“บริษัท ปตท.เป็นบริษัทที่รัฐถือหุ้น 51% ถือเป็นรัฐวิสาหกิจตามระบบงบประมาณ และเป็นบริษัทที่ได้รับรางวัลธรรมาภิบาลมากมาย คนที่ให้รางวัลธรรมาภิบาลเขาดูคุณสมบัติอะไรกันบ้าง การที่ปตท.มีบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในเกาะฟอกเงินถึง 30 บริษัท มีธรรมาภิบาลได้อย่างไร? ปตท. เป็นรัฐวิสาหกิจ เหตุใดจึงได้รับอนุญาตให้ไปเปิดบัญชีในเกาะฟอกเงินที่เคย์แมนได้ถึง 30 บริษัท โดยหน่วยงานตรวจสอบของภาครัฐไม่หือไม่อือกันเลยเรอะ?

“นายไพรินทร์บอกว่าจะแก้ปัญหาปตท.มีบัญชีในเกาะเคย์แมนด้วยการปิดบัญชีนั้นซะ ก็แสดงว่าเขารู้มาโดยตลอดว่าเกาะแห่งนั้นไม่ใช่ที่ที่บริษัทดีๆ จะไปเปิดบัญชีที่นั่น ขอถามว่า ทำไมจึงปล่อยบัญชีของปตท.นั้นไว้หลายปีโดยไม่ปิดมาก่อนหน้าที่คนเขาจับได้ และเมื่อใดจะปิดบัญชีมืดนั้นสักที แต่เครื่องหมายคำถามตัวโตๆในที่นี้ก็คือ ซีอีโอคนนี้ไม่เคยรู้เลยหรือว่าปตท.มีบัญชีซุกอยู่ในเกาะเคย์แมนถึง 30 บริษัท ถ้ารู้แล้วทำไมจึงไม่บอกความจริงในการให้สัมภาษณ์ไทยโพสต์ครั้งนั้น

“แต่ถ้าท่านเพิ่งรู้จากดิฉันในวันนี้ว่า ปตท.ไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวในเกาะฟอกเงินที่บังเอิญติดมาจากการไปซื้อบริษัทที่ฟิลิปปินส์เมื่อหลายปีก่อน แต่มีบริษัทลูกและหลานของปตท.ที่ไปจดทะเบียนอยู่ในเกาะฟอกเงินถึง 30บริษัท แล้วจะทำอย่างไรกับบัญชีมืดเหล่านั้นต่อไป ใคร่ขอคำตอบ

“ถึงสื่อกระแสหลักทั่วไปไม่สนใจติดตามความจริงเรื่องนี้ ได้แต่เชื่อตามที่เขาหลอก แต่ประชาชนนับล้านผู้เป็นเจ้าของปตท.ตัวจริง ย่อมสนใจเจาะความจริงเรื่องนี้แน่ๆ อย่าสมคบคิดกันแปรรูปปตท.รอบสอง เพื่อหนีการตรวจสอบจากประชาชนโดยเด็ดขาด ขอให้รู้ไว้เถิดว่าสมบัติของแผ่นดินนั้นตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้

“การที่ซีอีโอของปตท.ให้ข้อมูลต่อสาธารณชนว่ามีบริษัทบนเกาะสีเทาแห่งนั้นแค่บริษัทเดียว จะเพราะว่าเป็นซีอีโอที่ไม่ได้สนใจดูงบการเงินของตัวเอง หรือว่าจงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสาธารณชนกันแน่? อย่างนี้ควรเรียกว่าเป็นการโกหกคำโต โดยใช้สื่อกระแสหลักโตๆ แบบฮิตเลอร์ ดังที่กล่าวหาผู้อื่นหรือไม่ ?”



อดีตส.ว. กรุงเทพฯ ยังลิงค์ไปยังงบการเงินฉบับสมบูรณ์ บมจ.ปตท. 2557 http://ptt-th.listedcompany.com/…/20140221-PTT-FSFY2013-TH.…เพื่อให้คนที่สนใจใคร่รู้เข้าไปดูหลักฐานข้อเท็จจริง ทว่าในจำนวนบุคคลที่สนใจนั้นอาจไม่มีนายไพรินทร์ เพราะในเวลาต่อมาเขาได้ยื่นฟ้องนางสาวรสนา ทั้งที่ที่มาของหลักฐานปรากฏอยู่โทนโท่และเป็นข้อมูลของปตท.เองทั้งสิ้น

ต่อกรณีเกาะเคย์แมนแดนสวรรค์ของนักฟอกเงิน นางสาวรสนา ยังเขียนบทความอีกบทหนึ่งเมื่อวันที่ 7สิงหาคม 2557 ด้วยว่าหลังจากเธอชี้ประเด็นที่ปตท.มีบริษัทลูกหลานอยู่ในเกาะฟอกเงินมากมาย อาทิเช่น เกาะเคย์แมน เกาะไซปรัส เกาะเบอร์มิวด้า เกาะบาฮามาส และเกาะมอริเชียส ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ที่ถูกระบุในรายงานของสหประชาชาติว่าเป็นแหล่งฟอกเงิน แหล่งที่มาของรูปแบบการฉ้อฉลทางการเงินระดับสูงและแหล่งหลีกเลี่ยงภาษีทั่วโลก แต่ก็มีคนออกมาปกป้องปตท.ว่าใครๆ ก็ทำกัน โดยยกรายชื่อบริษัทและธนาคารในไทยหลายแห่งว่าก็มีบัญชีในเกาะฟอกเงินเหล่านั้นเช่นกัน



สาวก ปตท. ที่ดาหน้าออกมาปกป้อง โต้แย้งแบบข้างๆ คูๆ ตัวอย่างเช่น “การเปิดบริษัทในประเทศที่มีการยกเว้นภาษีเงินได้นั้นกระทำกันมานานแล้วเพื่อเป็นการลดภาระภาษีที่จะต้องเสียในประเทศต้นกำเนิดของรายได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำได้เต็มจำนวนเงินได้นั้นๆ คงทำได้บางส่วนเท่านั้น แต่หากจำนวนเงินสูงแน่นอนว่าการประหยัดภาษีดังกล่าวก็จะสามารถเพิ่มรายได้ให้องค์กรได้ หากมุมมองว่าการเปิดบริษัทในประเทศเหล่านั้นจะต้องโกงก็คงจะไม่ยุติธรรมกับคนที่พยายามทำรายได้ให้ประเทศไทย แต่คนไทยที่ไม่เข้าใจระบบการเงินระหว่างประเทศก็อาจจะมองได้ว่าไม่โปร่งใส และผมเบื่อคนที่ไม่รู้จริงในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศแต่เสียงดังแล้วขยายความเชื่อให้คนไทยเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการโกง จึงอยากขอร้องให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาข้อเท็จจริงก่อนที่จะสรุปว่าใครถูกใครผิด”

อดีตส.ว.กรุงเทพฯ จึงตั้งคำถามว่า แทนที่จะเห็นว่าต้องมีการแก้ไข กลับบอกว่าใครๆ เขาก็ทำกัน เลยเป็นเหตุผลว่ารัฐวิสาหกิจอย่างปตท.ก็ทำได้อย่างนั้นหรือ?

นางสาวรสนา ยังได้ไปค้นวิดีโอการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันระหว่างObama กับMitt Romney ในปีค.ศ.2012(พ.ศ.2555)ซึ่งในวีดิโอนั้น Obama ได้เปิดโปงพฤติการณ์เรื่องหนึ่งของMitt Romney คือการมีเงินมากมายฝากในธนาคารสวิส และมีบัญชีเงินบนเกาะที่เป็น Tax Heaven อย่าง เบอร์มิวด้า และ เคย์แมน

การเปิดโปงข้อมูลเรื่องนี้ของ Obama เป็นไม้เด็ดที่ทำให้คะแนนเสียงของRomney ร่วงทันทีและส่งผลให้ Obama ชนะได้เป็นประธานาธิบดีอเมริกัน

ดังนั้น ใครก็ตามที่กล่าวอ้างว่า”ใครๆ ก็ทำธุรกรรมบนเกาะฟอกเงินกันทั้งนั้น” ลองพิจารณาว่าเหตุใดคนอเมริกันจึงไม่เลือกคนที่มี”พฤติการณ์แบบที่ใครๆ ก็ทำกัน”มาเป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศของเขา เเละเหตุใด Obama จึงเลือกใช้ความจริงข้อนี้ในการบอกคนอเมริกัน เรื่องนี้น่าจะเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่า ประชาชนรู้ดีว่าเกาะฟอกเงินแบบนั้น เป็นที่ที่องค์กรของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ควรไปทำธุรกรรมที่นั่นกระมัง?

“ดิฉันเพียงแต่ตั้งคำถามว่าเกาะฟอกเงินที่เป็นพื้นที่สีเทาเป็นอโคจรสถานสำหรับบริษัทที่มีธรรมาภิบาลหรือสุจริตชนที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วยหรือไม่?? แม้แต่Mitt Romney ที่เสนอตัวแข่งขันชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯ กับนายโอบามา ยังจอดไม่ต้องแจวเมื่อถูกเปิดเผยว่ามีบัญชีบนเคย์แมน” 

แล้ววันนี้ คำตัดสินของศาลฯ ก็ตอกย้ำอีกครั้งว่าใครกันแน่ที่โกหกคำโต และ ปตท. ยังควรค่าแก่รางวัลธรรมาภิบาลดีเด่น หรือไม่??