จากกรณีโพสต์บทความลงในอินเตอร์เน็ต พาดหัวข่าวว่า ““บิ๊กตู่” ฟิวขาด ด่ากราดปปช. ไล่ให้เติม “น้ำเปล่า” แทนดีเซล อย่าโง่ วอนประชาชนอย่าเรื่องมาก” อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้เชิญตัวนายรัตนะ เฮง มาพูดคุยและทำความเข้าใจ โดยนายรัตนะ เฮง ยินยอมเดินทางพร้อมกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ไปยังประเทศไทยเพื่อเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ปอท.นายรัตนะ เฮง (Mr.Ratanak Heng) สัญชาติกัมพูชาหนังสือเดินทางเลขที่ N1745558
ในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1154/2561 ลงวันที่ 30 พ.ค.2561
นายรัตนะ จบการศึกษาด้านไอทีและทำงานด้านการค้าอัญมณี รวมถึงบิดคอยด์ ซึ่งเป็นสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยพบว่าได้มีการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับรัฐบาลไทยและนายกรัฐมนตรีถึงสามครั้ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนว่านายรัตนะ เฮงมีส่วนพัวพันกับการยุยงปลุกปั่นให้เกิดปัญหาความมั่นคงในประเทศไทยหรือไม่และมีใครอยู่เบื้องหลังในการจ้างวานให้โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จลงสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ถือเป็นความผิดตามมาตรา 14 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการดำเนินคดีกับคนไทย 6 คนที่เป็นผู้โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จลงสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ผู้โพสต์ส่วนใหญ่ให้การว่า เป็นการส่งต่อข้อมูลเท่านั้นแต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยุยงปลุกปั่นทางการเมือง
สำนักข่าววิหคนิวส์