สหรัฐอเมริกากระตุกหนวดมังกร ขึ้นบัญชีคว่ำบาตรบริษัทของจีนฐานฟอกเงินให้เกาหลีเหนือ อีกทางอนุมัติขายอาวุธให้ไต้หวันมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์ รัฐบาลจีนยื่นประท้วงเรียกร้องสหรัฐยึดมั่นต่อหลักการ “จีนเดียว”
การตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน มีขึ้นทั้งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีน เพื่อขอให้จีนช่วยกุมบังเหียนเกาหลีเหนือกรณีโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ทรัมป์เพิ่งให้การต้อนรับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่รีสอร์ตมาร์อะลาโกของเขาในรัฐฟลอริดาเมื่อเดือนเมษายนด้วย
รัฐบาลจีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน และไม่ปฏิเสธทางเลือกที่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดครองหากไต้หวันประกาศเอกราช แต่ในคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐภายหลังรัฐบาลแจ้งแผนการขายอาวุธต่อสภาคองเกรสเมื่อวันพฤหัสบดี ยืนกรานว่า สหรัฐไม่ได้เปลี่ยนแปลงนโยบาย “จีนเดียว” ที่ยึดถือมานาน
เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า แผนการขายอาวุธแก่ไต้หวันเป็นไปตามกฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวันปี 2522 ที่ให้สหรัฐคงความสัมพันธ์ทางการค้าและขายอาวุธแก่ไต้หวัน เพื่อรักษาขีดความสามารถในการป้องกันตนเองอย่างเพียงพอของไต้หวัน
ข้อเสนอขายอาวุธแก่ไต้หวันซึ่งเป็นครั้งแรกในสมัยของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยการตัดสินใจขายอาวุธแก่ไต้หวันครั้งล่าสุดคือเมื่อเดือนธันวาคม 2558
ค่ำวันเดียวกันนั้น สถานทูตจีนในสหรัฐออกแถลงการณ์คัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐที่จะขายอาวุธแก่ไต้หวันมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 44,180 ล้านบาท) โดยระบุว่าเป็นการส่งสารผิดๆ ต่อขบวนการเรียกร้องเอกราชของไต้หวัน การตัดสินใจที่ผิดของสหรัฐครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรบริษัทของจีน ขัดแย้งต่อความเห็นพ้องต้องกันของประธานาธิบดีสหรัฐและจีนระหว่างการพบปะที่ฟลอริดา และขัดแย้งกับพัฒนาการความสัมพันธ์ที่กำลังเป็นไปในทิศทางบวก
กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกแถลงการณ์ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ ประณามการตัดสินใจของสหรัฐทั้งสองกรณีเช่นกัน และว่าจีนได้ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการต่อสหรัฐแล้ว และเรียกร้องรัฐบาลสหรัฐยึดมั่นอย่างจริงจังต่อหลักการจีนเดียว
ก่อนหน้านั้น กระทรวงการคลังของสหรัฐประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐได้ขึ้นบัญชีคว่ำบาตรธนาคารตานตงของจีน ที่ถูกระบุว่าช่วยเหลือฟอกเงินให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และยังคว่ำบาตรชาวจีน 2 คนที่ตั้งบริษัทบังหน้าอำนวยความสะดวกแก่การทำธุรกรรมของเกาหลีเหนือ กับบริษัทชิปปิงของจีนอีก 1 บริษัทที่ช่วยเหลือในการลักลอบนำสินค้าต้องห้ามเข้าเกาหลีเหนือ
สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ อ้างว่า การคว่ำบาตรซึ่งห้ามบุคคลและบริษัทเหล่านี้ทำธุรกรรมหรือธุรกิจกับสถาบันการเงินหรือบริษัทของสหรัฐ ไม่ใช่การพุ่งเป้าที่จีนโดยตรง แต่เป็นการพุ่งเป้าลงโทษธนาคาร, บุคคล และบริษัทในจีนเท่านั้น.
Cr:ไทยโพสต์