12 พ.ย. 2564 – นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของ 3 แกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า จะจบยังไง
ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร และมีงานต้องทำต่อสองทาง ในด้านการเมืองและด้านอาญา
ในด้านการเมือง แยกพิจารณาสองทาง ส่วนของพรรคและปัจเจกบุคคล
ในส่วนของพรรค ถ้ามีหลักฐานว่าพรรคหรือผู้บริหารมีส่วนเกี่ยวข้องกับสามคนนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คงต้องวินิจฉัยทำเรื่องส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค
ในส่วนตัวบุคคล หากพบว่า ส.ส.ของพรรคคนไหนไปเกี่ยวข้องกับสามคนนั้น ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้องต่อศาลฎีกา ในข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรม ขอให้เพิกถอนฐานะ ส.ส.
ในส่วนของคดีอาญานั้น พนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้อยู่แล้ว คงต้องเพิ่มเติมว่า เข้าข่ายข้อหาล้มล้างการปกครอง ตาม มาตรา 113 และส่งสำนวนให้อัยการ หากพบว่าอาจจะมีคนอื่นเกี่ยวข้องต้องสอบสวนเพิ่มเติม
อยากให้ลากบรรดาอาจารย์และคนที่อยู่เบื้องหลังเสี้ยมเด็กๆ มาลงโทษด้วย
อย่ามาตีสำนวนนะ กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา.