วันที่ 30 พ.ย. 63 ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเครียร์พื้นที่หน้า กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หลังแกนนำมวลชนคณะราฎร ประกาศยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 22.00 น.โดยเบื้องต้นพบรถตู้ของทางตำรวจเสียหาย 16 คัน เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบความเสียหายและเก็บรอยนิ้วมือ เพื่อใช้ตามตัวคนกระทำความปิดมาดำเนินคดีอีกครั้ง
ช่วงท้ายกิจกรรมการชุมนุม มีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ขึ้นปราศรัย และอ่านแถลงการณ์ทั้งภาคภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ยืนยันจุดยืนของการชุมนุม ซึ่งหลังจากอ่านแถลงการณ์ได้จัดกิจกรรม นำใบแถลงการณ์พับเป็นจรวด ปาเข้าไปในแนวกั้นของตำรวจ และเทสีแดงลงบนพื้นถนนทางเข้ากรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการส่งสารอย่างสันติวิธี
จนกระทั่งเวลา 22 น. แกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุม พร้อมกับนัดหมายชุมนุมครั้งต่อไปในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ เวลา 14 น.ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อไปสังเกตการณ์ศาลรัฐธรรมนูญที่นัดลงมติ และอ่านคำวินิจฉัย กรณี อยู่บ้านหลวง ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่พักอาศัยบ้านพักสวัสดิการข้าราชการ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก และเมื่อเกษียณยังคงอยู่อาศัยใช้ประโยชน์ ซึ่งจะเข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงนัดให้มวลชนไปพบกันในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
ขณะที่ในช่วงเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมเจ้าหน้าที่จาก กรุงเทพมหานคร ที่เข้ามาทำความสะอาดฉีดล้างพื้นถนน ตามปกติหลังสิ้นสุดการชุมนุม ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ นอกจาก รถตู้ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เสียหายจำนวน 16 คัน โดยการเสียหายมีทั้ง ถูกมือดีปล่อยลมยางออกจนหมด หรือพ่นสีด้วยข้อความต่างๆ รวมถึงมีการทุบทำลายกระจกรถ
ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาเก็บรอยนิ้วมือแฝงเพื่อใช้ในการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังมีการปิดเส้นทางถนนพหลโยธินขาเข้า เพื่อทำการเครียร์พื้นที่ด้านหน้าประตูทางเข้ากรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ส่วนบริเวณที่มีการเทสีแดงไว้ที่ประตูทางเข้า ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาดำเนินการเก็บล้าง โดยขอความร่วมมือสื่อมวลชนไม่ให้บันทึกภาพเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ระหว่างการเครียร์พื้นที่ ก่อนจะมีการเปิดการจราจรตามปกติ
ที่มาและขอบคุณ ตะเวนข่าวถึงที่