วันนี้ (24 ก.พ. 66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เสนอนโยบาย ‘น้ำมันประชาชน’ ลดเบนซินลิตรละ 18 บาท ดีเซลลิตรละ 6 บาท ทันทีถ้าได้เป็นรัฐบาลว่า เขาจะพูดอะไรมาก็ได้ แต่ถ้ามาดูกฎหมายกติกา สัญญาต่างๆ มันก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องไปดูตรงนั้นเพราะทุกอย่างมันเป็นการสัญญา หากจะทำอะไรก็ต้องไปแก้ไขกฎหมายกันใหม่ ฉะนั้นหากเราจะเริ่มต้นใหม่ก็ต้องทำอะไรใหม่ และทำให้ดี ของเดิมก็ต้องขอความร่วมมือกันบ้าง ช่วยเหลือกันบ้างมันก็พอได้
เมื่อถามว่าพรรรคไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. จะสามารถปรับลดราคาน้ำมันได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เดี๋ยวรอดูรอฟังก็แล้วกัน ไม่ต้องรวมไทยสร้างชาติหรอก เดี๋ยวตอนนี้นายกฯ ก็จะดูแลให้ มากน้อยก็เดี๋ยวดู ตนได้คุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว ในฐานะที่กำกับดูแลว่าจะสามารถปรับลดราคาน้ำมันลงได้มากน้อยเท่าใด แต่ก็ต้องดูว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมด้วยหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะมีการปรับลดให้แน่นอน แต่ไม่ใช่การหาเสียงนะ เพราะผมพูดในนามนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าหลายพรรคการเมืองมีการนำเสนอนโยบายขายฝัน จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สื่อมวลชนก็ต้องตรวจสอบดูว่าให้อะไร เท่าไหร่แล้วขอให้ไปลองคำนวณตัวเลขดู ว่าต้องใช้เงินจำนวนเท่าใด มันเพียงพอหรือไม่เพราะวันนี้งบประมาณรายรับเรามีอยู่เท่าไหร่
ส่วนนโยบายด้านเศรษฐกิจสู้กับพรรคอื่นของพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นอย่างไรพลเอกประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า เศรษฐกิจคืออะไร คือการให้เงินอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ใช่นโยบาย แต่มันต้องเป็นนโยบายหาเงินเข้าประเทศ และจะใช้จ่ายเงินอย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ทุกคนได้รับอย่างทั่วถึง จะให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งและกลุ่มอื่นไม่ได้ อย่างนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ซึ่งเขาทำกันอย่างนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่อยู่มาไม่ได้ทำแบบนี้ ตนเองทำให้ทุกคนนั้นเข้าถึงโอกาส และต้องดูแลความเป็นธรรม ให้เขาด้วย เช่น คนรายได้น้อย ที่ให้ไปแล้ว จะให้เพิ่มได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องคำนึงถึงรายรับและรายจ่ายของประเทศด้วย มันต้องสมดุลกัน