เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 กรกฎาคม) จะเดินทางไปแจ้งความต่อกองปราบปรามเอาผิดปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อุตสาหกรรม จ.สมุทปราการ และอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปล่อยปละละเลยการตรวจสอบควบคุมการจัดเก็บสารเคมี ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุอันตราย ทำให้เกิดเหตุระเบิดที่โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด จ.สมุทรปราการ ข้าราชการเหล่านี้ต้องร่วมรับผิดชอบ ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะยังไม่แจ้งความเอาผิด แต่จะนำข้อมูลไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
นายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ยังได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พบว่ายังมีสไตรีนที่เป็นต้นเหตุการระเบิดอยู่ใต้ดินภายในบริเวณโรงงานอีก 1,600 ตัน ยังไม่ถูกขนย้ายออกมาน่าเป็นห่วง เพราะหากระเหยขึ้นมาและมีอุณหภูมิเหมาะสมแล้วไปผสมกับไนโตรเจนและออกซิเจนในอากาศจะเกิดการระเบิดขึ้นมาอีกครั้งได้ โดยเฉพาะสารสไตรีนในปริมาณ 1,600 ตัน จะมีอานุภาพความเสียหายรุนแรงระดับ 60-70% เหมือนกรณีที่เคยเกิดระเบิดที่ประเทศเลบานอน รัฐบาลต้องเร่งนำสารสไตรีนออกจากพื้นที่โดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้ระเบิดอีก ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเรื่องเร่งแก้สภาพอากาศพิษในที่เกิดเหตุให้เจือจาง การออกระเบียบควบคุมการจัดเก็บสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ให้มีปริมาณมากเกินไปและการจัดเก็บต้องอยู่ใต้ดิน มีผนังตะกั่วกั้น ป้องกันการรั่วไหล การเยียวยานักกู้ภัยที่เสียชีวิตและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ การแยกโรงงานอุตสาหกรรมออกจากชุมชนโดยด่วน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 กรกฎาคม) จะเดินทางไปแจ้งความต่อกองปราบปรามเอาผิดปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อุตสาหกรรม จ.สมุทปราการ และอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปล่อยปละละเลยการตรวจสอบควบคุมการจัดเก็บสารเคมี ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุอันตราย ทำให้เกิดเหตุระเบิดที่โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด จ.สมุทรปราการ ข้าราชการเหล่านี้ต้องร่วมรับผิดชอบ ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะยังไม่แจ้งความเอาผิด แต่จะนำข้อมูลไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
นายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ยังได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พบว่ายังมีสไตรีนที่เป็นต้นเหตุการระเบิดอยู่ใต้ดินภายในบริเวณโรงงานอีก 1,600 ตัน ยังไม่ถูกขนย้ายออกมาน่าเป็นห่วง เพราะหากระเหยขึ้นมาและมีอุณหภูมิเหมาะสมแล้วไปผสมกับไนโตรเจนและออกซิเจนในอากาศจะเกิดการระเบิดขึ้นมาอีกครั้งได้ โดยเฉพาะสารสไตรีนในปริมาณ 1,600 ตัน จะมีอานุภาพความเสียหายรุนแรงระดับ 60-70% เหมือนกรณีที่เคยเกิดระเบิดที่ประเทศเลบานอน รัฐบาลต้องเร่งนำสารสไตรีนออกจากพื้นที่โดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้ระเบิดอีก ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเรื่องเร่งแก้สภาพอากาศพิษในที่เกิดเหตุให้เจือจาง การออกระเบียบควบคุมการจัดเก็บสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมไม่ให้มีปริมาณมากเกินไปและการจัดเก็บต้องอยู่ใต้ดิน มีผนังตะกั่วกั้น ป้องกันการรั่วไหล การเยียวยานักกู้ภัยที่เสียชีวิตและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ การแยกโรงงานอุตสาหกรรมออกจากชุมชนโดยด่วน