ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า….
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ : โมฆบุรุษวาทกรรมบิดเบือน
นอกจากนายธนาธรจะไร้เดียงสาทางการเมือง นายธนาธรยังไร้ซึ่งความรับผิดชอบใดๆ ต่อการชี้นำทางการเมืองแบบผิดๆ อีกด้วย ขยันแต่คอยสร้างวาทกรรมกลวงๆ ที่เต็มไปด้วยความเห็นผิดบิดเบือน
โมฆบุรุษอย่างนายธนาธรที่คิดผิด พูดผิด และทำผิดอยู่เป็นนิจ จึงต้องปั่นกระแสบิดเบือนอยู่เรื่อยๆ เพื่อหล่อเลี้ยงความปลอมเปลือกสุดจอมปลอม ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการโกหกบิดเบือนมาโดยตลอด
ล่าสุดนายธนาธรได้ออกมาปั่นข้อเสนอใหม่อีกครั้งว่า “นิรโทษกรรม-ปฏิรูปสถาบัน-ICC บันไดสามขั้นสู่การคืนความยุติธรรมในยุคเปลี่ยนผ่าน” ซึ่งเป็นต้นตอของความขัดแย้ง แตกแยก เกลียดชังไม่สิ้นสุด
นิรโทษกรรม – การนิรโทษกรรมไม่ใช่ทางออกของปัญหาความเป็นธรรม หากแต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ โดยที่ไม่ได้สร้างความเข้าใจและความเคารพยำเกรงต่อกฎหมายให้เกิดขึ้น แถมนายธนาธรยังบิดเบือนว่ากฎหมายเอาผิดคนเห็นต่าง ทั้งๆ ที่กฎหมายเอาผิดแต่เฉพาะคนที่ทำการละเมิดต่อกฎหมาย
เนื้อแท้ของข้อเสนอ “นิรโทษกรรม” ของนายธนาธรจึงเป็นเพียงแค่ข้อเสนอ “อนาธิปไตย” เพื่อหลบหนีจากความผิดทางกฎหมายเท่านั้น
ปฏิรูปสถาบัน – การปฏิรูปสถาบันไม่ได้มีความจำเป็น เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยทรงเป็นสถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติ ได้ทรงวางรากฐานของชาติและระบอบประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น แถมยังเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์หนึ่งเดียวในโลกที่ทรงเลิกทาสอย่างสันติเพื่อประโยชน์สุขของปวงชน
เนื้อแท้ของข้อเสนอ “ปฏิรูปสถาบัน” ของนายธนาธรจึงเป็นเพียงแค่ข้อเสนอในการบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์แบบมั่วๆ เท่านั้น
ICC – แม้แต่ประเทศมหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐอเมริกาเองก็ไม่ได้ลงนามศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Criminal Court (ICC) โดยเคยออกมาโต้แย้งว่าเป็นการบ่อนทำลายและแทรกแซงอธิปไตยของชาติ แถมยังมีการพุ่งเป้าการไต่สวนไปยังประเทศในภูมิภาคแอฟริกามากกว่าภูมิภาคอื่นๆ
เนื้อแท้ของข้อเสนอ “ICC” ของนายธนาธรจึงเป็นเพียงแค่ข้อเสนอเปิดโอกาสให้มหาอำนาจยุโรปสามารถแทรกแซงอธิปไตยของไทยเท่านั้น
ข้อเสนอใหม่ทั้งหมดของนายธนาธรในครั้งนี้ จึงเป็นข้อเสนอในแนวทางผิดบิดเบือน ไม่ได้แตกต่างจากข้อเสนออื่นๆ ที่ผ่านมาทั้งหมดของเขา มีแต่จะนำพาสังคมให้หลงทาง หาได้คืนความยุติธรรมไม่
การคืนความยุติธรรมที่แท้จริงสามารถเกิดขึ้นได้จากการสร้างประชาธิปไตย ทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริงเท่านั้น จึงจะนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย เกิดระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องตามหลักวิชา สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของชาติ และมีความเป็นธรรมเป็นพื้นฐาน
เพราะที่ผ่านมามีแต่แนวทางผิด ประชาธิปไตยจึงไม่เคยเกิดขึ้น ขณะที่แนวทางถูกเป็นไปตามแนวทางราชประชาสมาสัย พระมหากษัตริย์กับประชาชนร่วมใจกันสร้างประชาธิปไตยอย่างสันติ ดังนั้น การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยและผลักดันให้เกิดราชประชาสมาสัย จึงเป็นหนทางของการสร้างประชาธิปไตยแห่งชาติไทยอย่างแท้จริง
ดร.ศุภณัฐ
10 ตุลาคม พ.ศ. 2565