นพ.มานพ พิทักษ์ภากร” หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซ Manop Pithukpakorn โดยระบุว่า
รอการศึกษาแบบนี้มานาน ในที่สุดก็มีคนทำออกมาซะที แม้จะเป็นการศึกษาในอาสาสมัครจำนวนแค่ 30 กว่าคน ทีมนักวิจัยจากเนเธอร์แลนด์ ทดสอบการฉีด Moderna vaccine ใหม่ โดยแทนที่จะฉีดเข้ากล้าม (intramuscular injection: IM) 2 เข็มห่างกัน 4 สัปดาห์
เขาเปลี่ยนเป็นฉีดเข้าชั้นผิวหนัง (intradermal injection: ID) 2 เข็มห่างกัน 4 สัปดาห์เหมือนเดิม จากนั้นทำการวัดระดับ antibody เมื่อฉีดครบแล้ว 2 สัปดาห์ พบว่าระดับ anti-spike และ anti-RBD สูงเทียบเท่ากับการฉีดเข้ากล้ามเลยทีเดียว โดยที่ผลข้างเคียงแทบไม่ต่างจากการฉีดเข้ากล้าม
ข้อดีของการฉีดวัคซีนแบบนี้คือใช้วัคซีนน้อยกว่ามาก ถ้าฉีด 20 microgram จะแบ่งฉีดได้ 5 คน และถ้าใช้แค่ 10 microgram จะแบ่งฉีดได้ ถึง 10 คน ถ้าทำการศึกษาในกลุ่มคนจำนวนมากขึ้น แล้วผลยืนยันไปทางเดียวกัน เราจะแก้ปัญหาวัคซีนประสิทธิภาพสูงไม่พอได้เลย เช่น Pfizer vaccine 20 ล้าน doses แทนที่จะฉีดได้แค่ 10 ล้านคนจะกลายเป็น 50-100 ล้านคน การฉีดแบบนี้ฝึกไม่ยากด้วย เราฉีด intradermal กับยาและวัคซีนหลายชนิดมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
น่าจะมีคนทำการศึกษาทำนองนี้ในประเทศไทยโดยด่วน จะเป็นประโยชน์มากครับ