ศาลฎีกาฯนัดชี้ชะตา”ยิ่งลักษณ์”คดีจำนำข้าว25ส.ค. กำหนดแถลงปิดคดี1ส.ค.นี้
วันที่ 21 กรกฎาคม 2560 – 15:00 น.ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีจำนำข้าว คดีหมายเลขดำ อม.22/2558 พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อายุ 50 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
หลังทนายความฝ่ายน.ส.ยิ่งลักษณ์ จำเลย นำพยานเข้าไต่สวน3ปาก โดยเป็นการไต่สวนนัดสุดท้าย จากนั้นศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องกรณีที่ฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องขอศาลฎีกาฯส่งประเด็นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าบทบัญญัติมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เกี่ยวกับการยึดสำนวน ป.ป.ช.เป็นหลักในการพิจารณาว่าจะขัดหรือไม่ขัดกับบทบัญญัติ มาตรา 235 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ทั้งนี้ศาลอนุญาตให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงปิดคดีในวันที่ 1 สิงหาคม และให้ส่งคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 15 สิงหาคม และนัดพิพากษาในวันที่ 25 สิงหาคม
ในการไต่สวนคดีจำนำข้าว มีพยานโจทก์ขึ้นไต่สวน15ปาก ใช้เวลา10นัด และพยานจำเลย30ปากใช้เวลา16 นัด โดยศาลเห็นว่าให้โอกาสคู่ความทุกฝ่ายเต็มที่ในการนำพยานบุคคลไต่สวนแล้วตามหลักเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตามหลักกฎหมายแล้ว ดังนั้นที่จำเลยยื่นขอส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยบทกฎหมายเรื่องดุลพินิจศาลในการไต่สวนพยานจึงไม่มีเหตุตามรัฐธรรมนูญฯ จึงให้ยกคำร้องนั้น ทั้งนี้วันตัดสินคดีจำนำข้าว ตรงกับวันตัดสินคดีระบายข้าวจีทูจี ที่มีนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 1, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 2 และพวกซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง 3 คน ข้าราชการการเมือง 3 คน และนิติบุคคลกับกรรมการผู้มีอำนาจในนิติบุคคล รวม 28 ราย เป็นจำเลยด้วย
ศาลฎีกาฯ นัดพิพากษาคดีโครงจำนำข้าว ตรงกับสำนวนคดีจีทูจี เนื่องจากข้อเท็จจริงหลักฐานเสนอในคดีเชื่อมโยงกัน อีกทั้งองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง2สำนวนมีจำนวน 5 คนที่ร่วมพิจารณาทั้งสองสำนวน
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน